อินเทรพิด ทราเวล เล็งไทย เป็นเป้าหมายขยายตลาดการท่องเที่ยวยั่งยืน เผยกลยุทธ์ 5 ปี มุ่งสู่รายได้ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มจำนวนลูกค้าเป็น 6 แสนคน พร้อมปักหมุด
ดาร์เรล เวด (Mr. Darrell Wade) ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท อินเทรพิด ทราเวล จำกัด (Intrepid Travel) บริษัทท่องเที่ยวแบบผจญภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวยั่งยืนเป็นแนวทางสำคัญขององค์กรในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าของอินเทรพิดมีแนวโน้มที่จะท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมากขึ้น ในช่วงครบรอบ 35 ปี บริษัทฯ จึงยังเดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืนต่อเนื่อง โดยบริษัทได้บริจาค 1% ของรายได้ ให้กับโครงการที่ได้เริ่มดำเนินงานตามวัตถุประสงค์เดียวกับทางบริษัทฯ และยังดำเนินการบูรณาการแบบแนวดิ่ง (Vertical Integration) เพื่อขยายการทำงานไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในประเทศสำคัญๆ ซึ่งประเทศไทยก็คือหนึ่งในนั้น
รวมไปถึงการนับคาร์บอนและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน และเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมทางเพศ สวัสดิภาพสัตว์ และสภาพแวดล้อม
“ในปีนี้ผมได้เดินทางมาประเทศไทยและสำนักงานของบริษัทรวม 27 ประเทศ เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 35 ปี พร้อมตอกย้ำการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กับบุคลากรของบริษัทฯ ทุกคนและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสี ยกับเป้าหมายในปี ค.ศ. 2030 ที่บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีรายได้ราว 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในปี ค.ศ. 2023 ที่ผ่านมา มีรายได้อยู่ที่ 621 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ”
ส่วนจำนวนลูกค้าทั่วโลก ในปี 2023 มีจำนวน 3.2 แสนราย ในปีนี้ตั้เป้าเพิ่มจำนวนลูกค้าทั่วโลกขึ้นเป็นสองเท่า หรือประมาณ 6 แสนราย
ไมค์ สจ๊วต ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเทรพิด ดีเอ็มซี (ประเทศไทยและลาว) กล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาเยือนสำนักงานทุกประเทศของ “ดาร์เรล เวด” เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในฐานะที่เป็นจุดหมายแรกของอินเทรพิด ที่ได้นำผู้คนจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า 35 ปี
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงาน 28 แห่งทั่วโลกและดำเนินการท่องเที่ยวแบบผจญภัยมากกว่า 1,150 ครั้งใน 119 ประเทศ รวม 7 ทวีป มีบุคลากรประจำ 18 คนและไกด์นำเที่ยวท้องถิ่น 40 คน กับการดำเนินแผนการเดินทางระหว่างประเทศ 22 ทริปในปีที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยว 5,000 คนที่ใช้บริการท่องเที่ยวกับบริษัทฯ ในการสัมผัสวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมและการอยู่ร่วมกับชุมชนท้องถิ่น การรับประทานอาหารท้องถิ่นและค้นพบประเทศไทยที่แท้จริง ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (net zero carbon)
ทั้งนี้ ยังเป็นการสนับสนุนส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจหลักของอินเทรพิด ด้วยรูปแบบการเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
บริษัทฯ ตั้งมูลนิธิ Intrepid Foundation ที่ไม่แสวงหากำไร โดยระดมทุนได้กว่า 15.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2002 และในปี 2023 Intrepid foundation ได้ร่วมมือมูลนิธินิเวศวิถี (Eco Thailand Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรท้องถิ่นในประเทศไทย เพื่อดำเนินการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นด้วยการจัดโปรแกรมการศึกษาที่สอนเรื่องวิธีการรักษา แก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในระดับท้องถิ่น โดย Eco Thailand มุ่งเน้นที่ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม การศึกษา ชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
“ค่านิยมของเราสอดคล้องกับความสำคัญของการมีอิทธิพลต่อมุมมองและการดำเนินการของชุมชนผ่านการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นต่อไปในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” ไมค์ สจ๊วต กล่าว
จินตมาศ ศิลปพรหมมาศ รองประธานกรรมการมูลนิธินิเวศวิถี (Eco Thailand Foundation) กล่าวว่า ในฐานะองค์กรที่ให้การส่งเสริมศักยภาพชุมชนในประเทศไทยด้วยทักษะและความรู้ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น สร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ “อินเทรพิด” ในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ในการให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อความยั่งยืน โดยมอบแนวทางการรับมือและแก้ไขผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในวันนี้และอนาคตของประเทศไทย
ดาร์เรล กล่าวว่า “อินเทรพิด” เชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจ จะทำให้ชุมชนท้องถิ่นได้รับประโยชน์เชิงบวกจากการท่องเที่ยวนำไปสู่ความยั่งยืน โดยบริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานในการดำเนินงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมสูงสุด (Certified B Corporation) นับหนึ่งในความสำเร็จสูงสุดของธุรกิจด้านความรับผิดชอบ ซึ่งต้องมีการพิจารณาผลกระทบในการตัดสินใจขององค์กรตามกฎหมายที่มีต่อ พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่สำคัญอันดับแรกของ “อินเทรพิด” สำหรับธุรกิจในประเทศไทยและทั่วโลก