กนอ. สร้าง”นิคมอุตสาหกรรมยั่งยืน” ฉลองครบรอบ 52 ปี เร่งเครื่อง “Smart Park” และ “ท่าเรือฯมาบตาพุด เฟส 3” คืบเกินครึ่ง มั่นใจเสร็จทันตามแผน เผยมียอดการลงทุนสะสมทะลุกว่า 17 ล้านล้านบาท
สุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้กล่าวในงานวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 52 ปี ว่า เป้าหมายการดำเนินงานของ กนอ.ภายใต้แนวคิด “52nd I-EA-T SPIRIT: EMPOWERING SUSTAINABLE FUTURE เสริมสร้างอนาคตนิคมไทย คือการเดินหน้าสู่ความยั่งยืน” มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการอยู่ร่วมกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมและชุมชน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases : GHGs)
ในปี 2568 ตั้งเป้าลดการปล่อย GHGs ในภาพรวมอย่างน้อย 2,500,000 kg CO2e รวมทั้งส่งเสริมพลังงานทางเลือก และมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutralitb และยกระดับโรงงานให้ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว 100% ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรในเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ เช่น ECO 5 มิติ, SMART ECO 4.0, ISO 14001 เพื่อยกระดับนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำแผนงาน Roadmap ของ กนอ. ในการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยมีเป้าหมาย การเข้าถึงน้ำสะอาด พลังงานสะอาด การจ้างงานที่ดี การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นายสุเมธ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 และสถานภาพการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ณ เดือนตุลาคม 2567 ที่ล่าสุดมียอดเงินลงทุนสะสมสูงถึง 17.24 ล้านล้านบาท โดยสถานภาพการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ณ เดือนตุลาคม 2567 มีนิคมอุตสาหกรรมรวม 70 แห่ง 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม ใน 17 จังหวัด คิดเป็นพื้นที่ 191,515 ไร่ มีโรงงาน 5,318 โรง เงินลงทุนสะสม 17.24 ล้านล้านบาท และมีแรงงานในนิคมอุตสาหกรรม กว่า 1 ล้านคน โดยกลุ่มอุตสาหกรรม TOP 5 ได้แก่ 1.ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะ 2.ผลิตภัณฑ์โลหะ 3.ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ 4.ผลิตภัณฑ์พลาสติก 5.เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี สำหรับนักลงทุนต่างชาติ TOP 5 เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ อเมริกา และไต้หวัน
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย นั้น
โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มีพื้นที่ 1,383.76 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม 621.55 ไร่ พื้นที่พาณิชยกรรม 150.54 ไร่ พื้นที่สีเขียว 238.32 ไร่ และพื้นที่สาธารณูปโภค 373.35 ไร่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน Floating Solar Farm ระบบ Internet (5G)/IoT และระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ ขณะนี้ Smart Park มีความก้าวหน้างานก่อสร้าง 100% พร้อมเปิดดำเนินการตามแผน โดยมุ่งเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย LOW CARBON INDUSTRY ได้แก่ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล
ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ที่มีการแบ่งเป็น 3 แปลง ได้แก่ ท่าเรือของเหลว ท่าเรือก๊าซ และคลังสินค้า โดยร่วมลงทุนกับบริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (GMTP) ขณะนี้ งานก่อสร้างในช่วงที่ 1 มีความคืบหน้าไปมาก โดยงานขุดลอกและถมทะเล งานก่อสร้างเขื่อนกันทราย และงานก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น คืบหน้ากว่า 90% แล้ว
Smart Park นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะโฉมใหม่แห่งอนาคตที่พร้อมเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบ หรือท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 โครงสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งที่เพิ่มขีดความสามารถการขนส่ง พร้อมรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ สอดคล้องกับ -วิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการสร้าง “นิคมอุตสาหกรรมยั่งยืน” ซึ่งมียอดเงินลงทุนสะสมสูงถึง 17.24 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลก ที่มีต่อศักยภาพของประเทศไทย