กรุงศรี ประกาศเดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 80 ตอกย้ำเป้าหมาย “ยืนหนึ่งการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” ภายใต้แนวคิด “Shaping Future Together” ชู One Krungsri ขยายเครือข่ายอาเซียน ควบคู่การเดินหน้าธุรกิจยั่งยืน
เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของกรุงศรี ที่ก้าวสู่ปีที่ 2 ของแผนธุรกิจระยะกลาง (Medium-Term Business Plan: MTBP) ฉบับปัจจุบันซึ่งครอบคลุมปี 2567-2569 กรุงศรีวาง 3 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนองค์กร ได้แก่ 1. การเป็น ONE Krungsri ที่สร้างความเป็นหนึ่งเดียว 2. การขยายฐานธุรกิจสู่อาเซียน และ 3. การขับเคลื่อนองค์กรด้านความยั่งยืน
- แผนธุรกิจ 3 กลยุทธ์หลัก
การเดินทางตลอดระยะเวลากว่า 80 ปีที่ผ่านมา กรุงศรีสร้างความไว้วางใจ นวัตกรรม และความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ปี 2567 กรุงศรีเติบโตอย่างสมดุล ด้วยผลกำไรสุทธิจำนวน 29,700 ล้านบาท และในปี 2568 กรุงศรียังพร้อมเดินหน้าต่อ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักดังกล่าว

เริ่มจาก 1. ONE Krungsri : มุ่งดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ ONE Krungsri ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว มีความคล่องตัว และยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างหน่วยงานทั้งหมดภายในกรุงศรีและธุรกิจต่าง ๆ ในอาเซียน ธนาคารจึงได้ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจ เพื่อเสริมโอกาสในการเติบโตและขยายธุรกิจในภูมิภาค
2. การขยายเครือข่ายในอาเซียน: สร้างความแข็งแกร่งให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดน และโซลูชันการเงินดิจิทัล โดยกรุงศรีมุ่งเป้ายกระดับสถานะในภูมิภาคให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ขณะที่ยังสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน ปัจจุบันเครือข่ายของกรุงศรีครอบคลุมไปยังประเทศต่าง ๆ ประกอบด้วย สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งให้บริการลูกค้ารวมกว่า 19 ล้านราย
ในปี 2567 ที่ผ่านมา กรุงศรียังได้เปิดให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านคิวอาร์โค้ด (QR Cross-Border Payment) ให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้ใน 8 ประเทศ ซึ่งรวมถึงใน สปป.ลาว ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ กรุงศรี ยังขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่น-อาเซียน ผ่านการจัดงานประชุมจับคู่ธุรกิจ Japan-ASEAN Startup Business Matching 2024 ที่ช่วยสร้างโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ ๆ ในภาคส่วนที่สำคัญหลายด้าน อาทิ HealthTech Fintech และ ESG
3. ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน: เพื่อเน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน กรุงศรีได้ตั้งเป้าหมายใหม่ที่จะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (Social and Sustainable Finance) ให้ถึง 250,000 ล้านบาท ในปี 2573 เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ กรุงศรีจะเดินหน้าให้การสนับสนุนลูกค้าผ่านโซลูชันการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการการเงินสีเขียว
กรุงศรีมีการกำหนดวิสัยทัศน์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Krungsri Net Zero Vision) ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และช่วยเหลือลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โครงการด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จในปี 2567 รวมถึงการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางความยั่งยืนให้กับองค์กรธุรกิจ และ SMEs มากกว่า 500 ราย ผ่านหลักสูตร ESG Academy และ ESG Symposium ซึ่งเป็นสุดยอดการประชุมสัมมนาด้าน ESG ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรับมือกับความท้าทายด้านความยั่งยืน และอีกหนึ่งโครงการด้านความยั่งยืนที่สำคัญในปีที่ผ่านมา คือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยการนำเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานมาใช้ในกระบวนการทำงาน โครงการลดปริมาณขยะ และการใช้พลังงานทางเลือก
- People Xcellence ขับเคลื่อนพนักงาน
นอกจากนี้ ยังลงทุนด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ด้วยกลยุทธ์ People Xcellence ที่สนับสนุนการพัฒนาความเป็นผู้นำให้กับบุคลากร การปรับเปลี่ยนตำแหน่งงานภายในภูมิภาค และการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เท่าเทียม รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลแบงก์กิ้ง การวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics) และการใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ความต้องการของผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง (Human-centric innovations) เพื่อยกระดับการให้บริการและประสบการณ์ลูกค้า
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ได้แก่ Embedded Finance Solutions ซึ่งหมายถึงโซลูชันบริการทางการเงินแบบฝังตัวผ่านความร่วมมือกับแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำ ผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ และช่วยให้สามารถทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตง่ายได้ทุกวันอย่างแท้จริง
กรุงศรี ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลและการเติบโตที่ยั่งยืน โดยคาดว่าตลอดปี 2568 ยอดเงินให้สินเชื่อจะเติบโตที่ 2-4% ตั้งเป้าหมายของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.8-4.1% ธนาคารคาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) จะอยู่ที่ 3.25-3.50% ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (cost-to-income ratio) จะอยู่ในระดับ Mid-40s%
- กรุงศรีร่วมสร้างอนาคต
เคนอิจิ ย้ำว่า กรุงศรีจะขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่น ที่มากกว่าเดิมเพื่อสร้างอนาคต ที่ประเด็นเรื่องความยั่งยืนและดิจิทัลเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่การเติบโต “Shaping Future Together” หรือคำว่า “ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน” เป็นมากกว่าแค่แนวคิด และมีนัยครอบคลุมหลากหลายมิติ ไม่ใช่หมายความถึงอนาคตของกรุงศรีเท่านั้น แต่หมายถึงอนาคตของลูกค้าและสังคมด้วย อีกทั้งยังเป็นการบอกให้ทุกคนลงมือทำ และมุ่งเป็นผู้นำในการนำเสนอโซลูชันทางการเงินใหม่ ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ ผู้คน และชุมชน ไม่เพียงในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงทั่วภูมิภาคอาเซียนและอื่นๆ ด้วย
ในปี 2567 กรุงศรีสร้างการเติบโตอย่างสมดุลทางการเงิน โดยให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนและการเงินที่รับผิดชอบ สอดคล้องกับแนวทางด้าน ESG ได้แก่ Environment, Social, และ Governance รวมทั้งการเงินเพื่อความยั่งยืน เช่นเดียวกับการลงทุนในดิจิทัลโซลูชันและเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง รวมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มข้น ที่ผ่านมา กรุงศรีถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำในการเป็น ESG bond underwriting ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 19%
นอกจากนี้ ยังให้บริการทางการเงินด้วย AI (AI-Power Banking Service) นำระบบการประเมินราคาด้วย AI และโซลูชันการเติมเงินสดที่เครื่อง ATM