0
0
การบินไทยปรับโฉมยูนิฟอร์มใหม่ 1 ม.ค.67 ทะยอยเปลี่ยน เริ่มสร้าง Soft Power ส่งต่อวัฒนธรรมไทย ความลงตัวของอัตลักษณ์ที่โดดเด่น กับชุดผ้าไหมรักษ์โลก จากขวด PET 1 ชุด 54 ขวด พร้อมเตรียมต่อยอดสู่สินค้ารักษ์โลก ไม่เกินต้นปี 67 รอชมได้เลย
ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานแถลงข่าว “FROM PURPLE TO PURPOSE” การปรับเปลี่ยนเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิง ที่ผสมผสานอัตลักษณ์ความเป็นไทยเข้ากับแนวคิดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) โดยจะเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป และคาดว่าจะปรับเปลี่ยนได้ทั้งหมดประมาณกลางปี 2567 สอดรับกลยุทธ์การเดินหน้าสู่องค์กร Net Zero ในปี ค.ศ.2050
เครื่องแบบชุดไทยเรือนต้นของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงของการบินไทย ตัดเย็บด้วยเส้นไหมไทยถักทอผสมผสานกับเส้นใยแปรรูปจากวัสดุรีไซเคิล จากขวดพลาสติก PET จำนวน 54 ขวด ที่สามารถตัดเย็บเป็นชุดไทยได้ 1 ชุด โดยชุดไทย 1 ชุด ใช้วัสดุรีไซเคิลประมาณ 70% หรือ 18 ขวด ได้ผ้า 18 หลา ซึ่งอนาคตจะพัฒนาขวดพลาสตอก PET เหล่านี้ ไปใช้สร้างประโยชน์อื่นๆ ต่อเนื่อง
ข้อดีของชุดไทยรีไซเคิลนี้ ผ้ามีความยืดหยุ่น คงตัว คืนสภาพง่าย ไม่ยับ และสามารถซักผ้าแบบปกติได้ โดยไม่ต้องซักแห้ง ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา และยังช่วยลดการใช้พลังงานอื่นๆ ซึ่งเ็นผลพวงต่อเนื่อง ซึ่งพนักงานต้อนรับหญิงการบินไทย ยืนยันว่า เนื้อผ้าไม่ได้ร้อน หรือทำให้รำคาญเวลาสวมใส่แต่อย่างใด
การดำเนินงานตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ การบินไทยดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากอุตสาหกรรมการบินมาอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านต่างๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านกิจกรรมและโครงการริเริ่มต่างๆ ทั้งในรูปแบบการลดการใช้ทรัพยากร ลดปริมาณขยะด้วยการนำวัสดุที่ไม่ใช้งานแล้ว กลับมาพัฒนาสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) ภายใต้แนวคิด Zero Waste Living ซึ่งประกอบด้วยหลักการหลัก 3 ประการ ได้แก่ FROM PLANES TO PLANET- การบินเพื่อสิ่งแวดล้อม FROM WASTE TO WEALTH-การพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และ FROM PURPLE TO PURPOSE-จากใจสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืน
เครื่องแบบชุดไทยเรือนต้นดังกล่าวจะปรากฏในทุกที่สาธารณะทั่วโลกและทุกชั้นบริการบนเครื่องบิน ในฐานะเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงของการบินไทย ซึ่งจะสวมใส่พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยคาดจะเปลี่ยนได้ครบ 100% ภายในกลางปี 2567 ส่วนชุดไทยเก่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จะนำมารีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป
ก่อนหน้านี้ การบินไทยได้รณรงค์ให้พนักงานนำยูนิฟอร์มเก่า กลับมาบริจาคเพื่อนำมาอัพไซคลิงเป็นยูนิฟอร์มชุดใหม่ ซึ่งสามารถรวบรวมยูนิฟอร์มและเสื้อผ้าเก่าจากพนักงานได้กว่า 10 ตัน และนำมาอัพไซคลิงเป็นยูนิฟอร์มใหม่ เพื่อแจกให้กับพนักงานการบินไทยทุกคนได้ใช้ โดย ยูนิฟอร์มเก่า 2 กิโลกรัม สามารถผลิตเป็นเสื้อยูนิฟอร์มใหม่ได้ 1 ตัว
ที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มดำเนินการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานด้วยการนำเครื่องบินและเครื่องยนต์สมัยใหม่ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำมาใช้ในการให้บริการ และปรับปรุงการปฏิบัติการบิน อาทิ การนำเทคนิค Single Engine Taxi และการลดน้ำหนักการบรรทุกมาปรับใช้ในการปฏิบัติการบิน เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการปรับปรุงกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งรวมถึงการจัดทำแผนการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF-Sustainable Aviation Fuel) มาใช้ทำการบิน ซึ่งตั้งเป้าเริ่มเปลี่ยนมาใช้ SAF ภายในปี ค.ศ.2030 และยังมีแผนการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจด้านอื่นๆ นอกเหนือจากกิจกรรมการบิน อาทิ กิจกรรมครัวการบิน กิจกรรมสายช่าง กิจกรรมการบริการภาคพื้น ตลอดจนกิจกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนทางสังคม อาทิ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตรของเกษตรชาวไทยและผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ]fการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050)
