สวนสามพราน-สามพรานโมเดล จุดประกายท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ เปิดทริปแรก…ตามเส้นทางโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม -เศรษฐกิจหมุนเวียน-พึ่งพาตนเอง
จากประสบการณ์ทำงานขับเคลื่อนสามพรานโมเดล หรือโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม เชื่อมโยงห่วงโซ่อินทรีย์ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มายาวนานกว่า 10 ปี ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) วันนี้สวนสามพราน โดย อรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพราน และผู้ริเริ่มสามพรานโมเดล พร้อมแล้วที่จะเปิดชุดความรู้ เปิดพื้นที่ และเปิดบทเรียนจากประสบการณ์การขับเคลื่อนให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป ได้เข้ามาสัมผัส และมีส่วนร่วมในรูปแบบการท่องเที่ยว-เรียนรู้วิถีอินทรีย์หลากหลาย โดยมีเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายเกือบ 200 ครอบครัว ทั้งในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ เชียงราย อำนาจเจริญ พิษณุโลก ฯลฯ ให้เลือกไปร่วมเรียนรู้ได้ตลอดทั้งปี
นายอรุษ เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมเรียนรู้-ท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ที่จัดขึ้นเป็นทริปแรก เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา จะเป็นเส้นทาง “สวนสามพราน-คลองบางแก้ว” ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มเครือข่ายสามพรานโมเดล อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่เน้นให้เห็นความเชื่อมโยง ห่วงโซ่คุณค่าของโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม ระหว่างสวนสามพรานกับเกษตรกรที่มาเป็นพันธมิตรกัน และเห็นความเชื่อมโยงของการทำเกษตรอินทรีย์ กับการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งในแปลงอินทรีย์จะมีการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนไปโดยปริยาย เช่น เกษตรกรเลี้ยงเป็ดไก่ ก็เอามูลไก่ มูลเป็ดมาทำปุ๋ย รวมถึงขยะอาหารจากครัวเรือน ก็เอาไปทำปุ๋ย แล้วหมุนเวียนมาใช้ประโยชน์ในแปลงต่อ ทำให้ลดต้นทุน พึ่งพาตนเองได้
การเปิดพื้นที่เป็นแหล่งเรียนรู้-ท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ นั้นถือเป็นภาคต่อของการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล หรือโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม ที่สะท้อนการเป็นพันธมิตรระยะยาว ระหว่างสวนสามพรานและเกษตรกรอินทรีย์ ที่วันนี้กำลังก้าวไปสู่การยกระดับ ให้เกษตรกรอินทรีย์ก้าวไปอีกขั้น จากผู้ผลิตอาหารอินทรีย์ สู่การท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันกำลังเป็นที่ต้องการของคนในสังคม ทั้งอยากกินอาหารพืชผักอินทรีย์ ที่มั่นใจ อยากมีสุขภาพดี อยากปลูกเป็น ทำได้เอง อยากพาครอบครัวมาสัมผัส มาเจอเกษตรกรจริงๆ อยากตามหาชีวิตที่มีความหมาย รวมถึงหน่วยงานที่อยากทำซีเอสอาร์แบบยั่งยืน ทำธุรกิจเกื้อกูลสังคม โดยอรุษ และทีมงานการตลาดและการขายของสวนสามพราน ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมายาวนาน และทีมสามพรานโมเดล ที่ทำงานร่วมกับเกษตรกรอินทรีย์มานานนับสิบปี จะได้มาร่วมกันทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกรอินทรีย์ ทั้งการจัดเตรียมพื้นที่ จัดระบบการเล่าเรื่อง อาหาร คน และออกแบบกิจกรรมเรียนรู้ ที่สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจและสร้างความจดจำที่ดี ให้ผู้มาเยือน
สำหรับทริปนี้ สิ่งที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ผู้บริโภค และองค์กรธุรกิจ ที่มาร่วมในทริปแรก คือ กระบวนการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ของสวนสามพรานที่แสดงให้เห็นขั้นตอนการจัดการขยะอาหาร Food Waste Management ที่เศษขยะอาหารเหลือจากส่วนงานต่างๆ จะถูกนำไปแปรรูปเป็น ไบโอแก๊ส นำไปเลี้ยงไส้เดือน นำไปทำน้ำยาล้างจาน ทำปุ๋ยหมักและผลิตน้ำมันไบโอดีเซล โดยทุกส่วนจะถูกหมุนเวียนนำกลับมาใช้ในสวนสามพราน เช่น เชื้อเพลิงจากไบโอแก๊ส ใช้ในการต้มเปลือกมะพร้าวเหลือทิ้งเพื่อย้อมผ้า
นอกจากนี้ทุกคนยังได้เห็นกระบวนการพึ่งพาตนเองของสวนสามพราน ที่ทำให้ลดต้นทุน เช่น ปุ๋ยมูลไส้เดือน ก็นำไปเลี้ยงพืชต่อ หรือส่งขายที่ตลาดสุขใจ รวมถึงเห็นกระบวนการเตรียมดินปลูกแต่ละชนิด ที่มีส่วนผสมของ แกลบ มูลสัตว์ต่างๆ ใบไม้ เห็นการเก็บเมล็ดพันธุ์ใช้เองการนำผลผลิตที่ปลูกไปแปรรูป เช่น การทำน้ำส้มสายชูจากกล้วย
ในทริปเรียนรู้วิถีอินทรีย์ ทุกคนยังได้เห็นเส้นทางข้าวจากโรงสีของสวนสามพราน ที่ซื้อเปลือกจากเกษตรกรมาสีเอง โดยแกลบที่ได้จะถูกส่งไปฟาร์ม เพื่อทำปุ๋ย หากมีเหลือก็ขายให้เกษตรกรอินทรีย์เพื่อนำไปทำปุ๋ย ส่วนปลายข้าว และรำ ก็จะถูกส่งไปเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ของฟาร์ม มูลเป็ด มูลไก่ ที่ได้ก็นำมาทำปุ๋ยบำรุงต้นไม้ ใส่แปลงผัก หมุนเวียนเป็นวงจรโดยไม่มีส่วนไหนเหลือทิ้ง
และอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ คือ ทุกคนได้ไปลงพื้นที่สัมผัสท่องเที่ยวฟาร์มจริงที่ ไร่อาปื๊ดกะ โอปอ ต.คลองบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่นี่ได้เรียนรู้การพึ่งพาตนเองและเศรษฐกิจหมุนเวียนตามวิถีเกษตรอินทรีย์ เช่น การทำปุ๋ยพืชสดหมักในถุงไม่กลับกองที่ใช้วัตถุดิบในแปลงมาทำ เทคนิคการตอนกิ่งฝรั่ง การห่อฝรั่ง และชมแปลง พร้อมให้ทุกคนได้ชิมความอร่อยของฝรั่งกิมจูเก็บสดๆ จากต้น
แต่ก่อนไปสนุกกับกิจกรรมมาทำความรู้จักและฟังเรื่องเล่าที่น่าสนใจจาก คุณนิรัญ (ปื๊ด) และ คุณสุนันท์ (ปอ) จันทร์ไทย สองสามีภรรยา เจ้าของไร่อาปื๊ดกะโอปอ ที่ชวนกันทิ้งงานประจำ หันมาจับจอบจับเสียมรับหน้าที่เป็นเกษตรกรสานต่ออาชีพของแม่ แชร์ประสบการณ์จริงให้ฟังว่า เดิมทำงานประจำที่เทศบาลไร่ขิง และ ภรรยาเป็นพยาบาล แต่ทั้งคู่ตัดสินใจลาออกจากงาน มาปลูกผักเพื่อรักษาแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็ง “ผมบอกกับตัวเองว่า เราเลือกแล้ว ต้องทำให้เต็มที่ และเดินหน้าไปให้สุด ไปให้เต็มตัว เริ่มเรียนรู้ จนได้รับคำแนะนำจากสามพรานโมเดลให้ทำเกษตรอินทรีย์จริงจังเลย เราเห็นโอกาสทาง มีตลาดรองรับแน่นอน มีรายได้มั่นคง ภรรยาจึงตัดสินใจออกจากงานมาทำเกษตรอินทรีย์เต็มตัว”
จากวันนั้นถึงวันนี้ 10 ปีแล้ว คุณปื๊ดและคุณปอ สองเกษตรกรอินทรีย์ยอดกตัญญู ยิ้มด้วยความภูมิใจ พวกเขาบอกว่า มีความสุขกับชีวิตวันนี้มาก แม้รายได้ไม่เท่ากับเงินเดือนที่เคยรับแต่ได้อยู่พร้อมหน้า แม่อาการดีขึ้น และมีสุขภาพแข็งแรง กำไรอีกต่อคือ มีความสุขที่ได้แบ่งปันสุขภาพดีให้กับผู้บริโภค รอยยิ้มของแม่และลูกค้า คือ พลังที่ส่งให้พวกเรา มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลผลิตให้ได้คุณภาพ เพื่อให้ทุกคนได้รับอาหารที่ดีและปลอดภัย
สำหรับการมาเยือนครั้งนี้ นอกจากความประทับใจ ความสุขที่ทุกคนได้รับกลับไป สิ่งที่คุณปื๊ด อยากฝากให้ทุกคนได้เรียนรู้ คือ หลักคิดจากประสบการณ์ในการทำฟาร์มจริง เช่น
- การทำเกษตรอินทรีย์ต้องเริ่มที่ใจรัก ไม่ใช่เริ่มที่เงิน เพราะหลายอย่างต้องทำเอง ใช้เอง ต้องเอาใจใส่ดูแลแปลง แดดร้อน ฝนตกอย่างไร ก็ต้องทำ
- การทำเกษตรอินทรีย์ต้องมีเพื่อน นั่นคือมีการรวมกลุ่ม เพราะการรวมกลุ่มทำให้เรามีเพื่อน สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีข้อตกลงร่วมกัน ภายใต้ระบบรับรองแบบมีส่วนร่วม PGS เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่เข้มแข็ง
- การทำเกษตรอินทรีย์ต้องรู้จักพึ่งพาตนเอง ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อช่วยลดต้นทุน โดยเฉพาะปุ๋ย น้ำหมักชีวภาพ สารไล่แมลงต่างๆ ต้องทำเอง นำสิ่งที่มีในแปลง เช่น ใบไม้ มูลสัตว์ สมุนไพรต่างๆ รวมถึงเศษอาหารในครัวเรือน หมุนเวียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราต้องซื้อปัจจัยการผลิตเหล่านี้ จะอยู่ไม่ได้เลย จะเป็นหนี้ไม่สิ้นสุด
- การทำเกษตรอินทรีย์ต้องมีการวางแผน เริ่มตั้งแต่เตรียมแปลง การดูแลรักษา จนถึงการเก็บเกี่ยว เพราะแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา อากาศไม่เหมือนกัน เราต้องปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติมากที่สุด
- การทำเกษตรอินทรีย์ต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ พร้อมยกระดับไม่ปิดกั้นความรู้ หรือ เครื่องมือใหม่ๆ เช่น การใช้ Thai Organic Platform ในการบันทึกแปลง ที่สามารถพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่า เรามีตัวตน ทำเกษตรอินทรีย์จริง โชว์ขั้นตอนได้หมด สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ น่าเชื่อถือ
สำหรับหน่วยงาน องค์กร หรือ ผู้บริโภคที่สนใจ ศึกษาโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม และเรียนรู้เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ติดต่อได้ที่สวนสามพราน โดยสามารถปรึกษาโปรแกรมการท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีอินทรีย์อื่นๆ ได้ที่สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย Line@ thaiorganicplatform กด Link: https://lin.ee/1uDee1A หรือสมัครแพลตฟอร์ม www.Thaiorganicplatform.com