“ญาญ่า อุรัสยา” แบรนด์แอมบาสเดอร์ยูนิโคล่ ประเทศไทย ร่วมตอกย้ำความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม และร่วมส่งเสริมสังคมไทย ต่อยอดโครงการ RE.UNIQLO ชวนร่วมส่งต่อเสื้อแขนยาวกันหนาวผู้ประสบภัยจาก 50,000 ตัว สู่ 3 องค์กร
โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะหนึ่งในบริษัทเครื่องแต่งกายชั้นนำระดับโลก ยูนิโคล่ให้ความสำคัญกับผู้คน สังคม และโลก ในฐานะ Global Citizen ที่ดี ทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะตอบสนองสังคมระดับท้องถิ่น จึงได้วางเป้าหมายระยะกลางของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 เพื่อผลักดันให้ความคิดริเริ่มต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
หนึ่งในความมุ่งมั่นในปีนี้ของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) คือ การรวบรวมเสื้อผ้ากันหนาว จำนวน 50,000 ชิ้น ภายใต้โครงการ RE.UNIQLO ซึ่งเราได้เล็งเห็นถึงปัญหาและช่วยเหลือสังคมไทย ในเรื่องของจำนวนเสื้อผ้าที่กลายเป็นขยะฝังกลบในประเทศไทย และการขาดแคลนเสื้อผ้ากันหนาวของผู้ประสบภัยหนาวทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่อากาศบนดอยหนาวเย็นกว่าปกติ โดยในปี 2566 กิจกรรม RE.UNIQLO ตั้งเป้าหมายที่จะส่งต่อเสื้อผ้ากันหนาวจำนวน 50,000 ชิ้น ผ่านองค์กรพันธมิตรต่างๆ ภายในเดือน ธันวาคม 2566 จึงอยากจะเชิญชวนลูกค้าของยูนิโคล่ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชาวไทยด้วยกันในครั้งนี้ เพื่อมอบน้ำใจและความอบอุ่น เพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
เสื้อผ้าที่ได้ จะส่งผ่านให้แก่ผู้ประสบภัยหนาวจาก 3 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านร่มไทร และ UNHCR ที่จะเป็นตัวแทนส่งมอบเสื้อหนาวที่ได้รับการบริจาคจากยูนิโคล่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567
ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) เล่าว่า ในช่วงที่ศึกษาอยู่ เธอได้ร่วมกิจกรรมช่วยเหลือสังคมเช่นกัน และเคยร่วมเดินทางไปมอบข้าวของเครื่องใช้ให้กับผ้เดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งพบว่า พวกเขาเหลานี้มีความลำบากจริงๆ ด้วยระยะทางที่ห่างไกล ความไม่พร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวก และอีกหลายๆ เหตุผล
สำหรับโครงการของ RE.UNIQLO ของยูนิโคล่ “ญาญ่า” กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดีมาก และขอเชิญชวนให้ทุกๆ คนร่วมกันแบ่งปันเสื้อผ้ากันหนาวให้ผู้ประสบภัยหนาวที่เดือดร้อนจริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเสื้อกันหนาวเพียงอย่างเดียว เสื้อแขนยาว หรือเสื้อผ้าที่สามารถให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายได้ สามารถนำมามอบให้ที่ช้อปยูนิโคล่ได้เช่นกัน
“ยูนิโคล่ ยังคงเดินหน้ากิจกรรมด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการทำให้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคนไทยดียิ่งขึ้น เพราะผลลัพธ์ที่เราลงมือทำนั้นมีทั้งที่เห็นผลเลยในระยะสั้น และต้องรอผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ให้คำมั่นว่าเราจะยืนหยัดกิจกรรมด้านความยั่งยืนพร้อมลงมือทำจริง เพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่ไปด้วยกัน”โยชิทาเกะ วาคากุวะ กล่าว
ป้าหมายด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้รับการประเมินว่าเป็นไปตามแผนของการพัฒนาสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือย่อว่า SDGs) ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) โดยเน้นเป้าหมายที่ 3 – สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย, เป้าหมายที่ 14 – อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และ เป้าหมายที่ 15 – ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพดิน และหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
นอกจากนี้ ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ยังได้กำหนดระยะเวลาในการบรรลุเป้าหมายอื่นๆ ของแผนของการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเป็นตัวชี้วัดในการทำตามเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่กำหนดภายในปี 2568
ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้ทำกิจกรรมต่อเนื่องมากมาย เพื่อส่งเสริมชุมชนและสังคมผ่านกิจกรรมต่างๆ ในปี 2565 – 2566 อาทิ การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100% (IREC) ทั้งร้านสาขา และ สำนักงานใหญ่ การช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น การบริจาคเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับเหตุการณ์น้ำท่วม ที่จ.อุบล ในปี 2565 เหตุการณ์โกดังเก็บพลุระเบิดที่ อ. สุไหงโก-ลก จ. นราธิวาส และ การบริจาคหน้ากากอนามัยในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา
การสนับสนุนกิจกรรมการแข่งขันการเก็บขยะ SPOGOMI World Cup นอกจากนี้ ยังมี UNIQLO Recycling Clothes Donation ภายใต้โครงการ RE.UNIQLO และยังมีแผนงานความร่วมมือกับมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ด้านการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และลดภาวะโลกร้อนกจากก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการผลิตสินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืน
สำหรับ แคมเปญ RE.UNIQLO นับตั้งแต่เริ่มโครงการ UNIQLO Recycling Clothes Donation ในปี 2558 ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้ส่งต่อเสื้อผ้าที่ได้รวบรวมจากลูกค้าทั่วประเทศมากกว่า 194,273 ชิ้น ให้กับองค์กรพันธมิตรต่างๆ ในระดับท้องถิ่น
ยิ่งไปกว่านั้น ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) กำลังเตรียมเปิดตัว RE.UNIQLO STUDIO เป็นครั้งแรก ในวันที่ 28 กันยายน 2566 ภายใต้คอนเซปต์ Repair/Remake/ Reuse/Recycle เพื่อเป็นการนำเสื้อผ้ากลับมาซ่อมแซมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ต่ออายุการใช้งาน และนำไอเทมโปรดกลับมาใช้หมุนเวียนอีกครั้ง โดย RE.UNIQLO STUDIO จะเปิดให้บริการที่ร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาแรกในประเทศไทย โดยนำเทคนิคการตัดเย็บด้วยมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรือ ที่เรียกว่า Sashiko มาให้บริการ
ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) เดินหน้าแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืน เพื่อตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ในการ “ปลดล็อคพลังแห่งเสื้อผ้า” โดยให้ความสำคัญกับผู้คน (people) โลก (planet) และชุมชน (community) พร้อมสานต่อแผนปฏิบัติการสำหรับความยั่งยืนภายในปีงบประมาณ 2030 ของ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ผ่านแนวคิดไลฟ์แวร์ (LifeWear) เพื่อเป้าหมายการเป็นเสื้อผ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น