ตลาดคาร์บอนเครดิตไทยเฟื่อง “บล็อกเอจ” เปิดโทเคนชดเชยคาร์บอนแบบ Real-time

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:3 Minute, 51 Second

“บล็อกเอจ” ขานรับตลาดคาร์บอนเครดิตไทย โตเฉลี่ยต่อเนื่อง 18-31% ตลอด 5 ปี ลุยเปิดตัวโทเคนคาร์บอนเครดิตรายแรกในไทย ดึงเทคโนโลยีสร้างมาตรฐานใหม่ให้การชดเชยคาร์บอนแบบ Real-time

ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บล็อกเอจ จำกัด กล่าวว่า ตลาดคาร์บอนเครดิตไทยกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าปัจจุบันการชดเชยคาร์บอนในประเทศไทยยังอยู่ในระดับภาคสมัครใจ แต่ราคาซื้อขายคาร์บอนเครดิตกลับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18-31% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความต้องการที่สูงขึ้นและแนวโน้มของตลาดที่มีทิศทางขาขึ้น โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดคาร์บอนเครดิตไทยขยายตัวคือ การที่สหภาพยุโรปเตรียมบังคับใช้มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 มาตรการนี้จะสร้างแรงกดดันให้ผู้ส่งออกไทยต้องทำการชดเชยคาร์บอนมากขึ้น เพื่อลดภาระด้านภาษีเมื่อส่งสินค้าไปยังตลาดยุโรป

ล่าสุด “บล็อกเอจ: Block Edge’s” จับมือผู้เชี่ยวชาญพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิตให้โปร่งใส ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งจะช่วยให้การชดเชยคาร์บอนทำได้ทันที มีสภาวะเป็นกลางทางคาร์บอนแบบ Real-time ได้เป็นครั้งแรก

บล็อกเอจ ประกาศความสำเร็จ ในการเป็นรายแรกของประเทศไทยที่ยื่นจดลิขสิทธิ์ Smart Contract เพื่อทำ Tokenization คาร์บอนเครดิต บล็อกเอจและโทเคนคาร์บอนเครดิต จะเปลี่ยนแนวทางที่ธุรกิจไทยบริหารจัดการคาร์บอนทำให้การลดโลกร้อนเป็นทั้งความรับผิดชอบ และโอกาสทางธุรกิจ

  • โทเคนคาร์บอนเครดิตสร้างตลาดที่มีสภาพคล่อง

ภาวุธ กล่าวว่า โทเคนคาร์บอนเครดิตของบล็อกเอจจะสามารถซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มที่รองรับ และสามารถนำไปชดเชยคาร์บอนได้ตามมาตรฐานปกติ ทำให้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตมีความคล่องตัวมากขึ้น อีกทั้งช่วยส่งเสริมให้ตลาดเติบโตได้อย่างมั่นคง

บล็อกเอจ คาดว่าผู้ประกอบการไทยจะสามารถเข้าถึงคาร์บอนเครดิตได้ง่ายขึ้น พร้อมรับมือกับมาตรการทางสิ่งแวดล้อมระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีบล็อกเชนจะช่วยให้การชดเชยคาร์บอนทำได้ทันที ธุรกิจต่าง ๆ จะมีสภาวะเป็นกลางทางคาร์บอนแบบ Real-time ได้เป็นครั้งแรก

นอกจากนี้โทเคนคาร์บอนเครดิตของ บล็อกเอจ ยังสามารถซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มที่รองรับและนำไปชดเชยคาร์บอนได้ตามมาตรฐานปกติ ทำให้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตมีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ตลาดเติบโตได้อย่างมั่นคง

  • Tokenization พลิกโฉมตลาดคาร์บอนเครดิต

ธนารัตน์ กัววัฒนาพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท บล็อกเอจ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการหาซื้อคาร์บอนเครดิตในไทยเป็นเรื่องยากลำบาก เนื่องจากไม่มีตลาดกลางที่เป็นทางการ ผู้ซื้อและผู้ขายต้องเจรจากันโดยตรงทำให้ราคาไม่แน่นอนและใช้เวลารวบรวมคาร์บอนเครดิตนานเกินไป ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดต่ำและการชดเชยคาร์บอนทำได้ยาก

บล็อกเอจ แก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการพัฒนากระบวนการใช้คาร์บอนเครดิตเป็นสินทรัพย์อ้างอิงในการสร้างโทเคนประเภท ERC-721 และ ERC-20 สำหรับแต่ละโครงการ และนำไปเข้า Pool เพื่อสร้างโทเคนประเภท ERC-20 ต่ออีกทอด ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างใบรับรองคาร์บอนและโทเคนที่หมุนเวียนในตลาด นอกจากนี้ เมื่อนำโทเคนมาใช้ชดเชยคาร์บอน ผู้ชดเชยจะได้รับ NFT Certificate เป็นหลักฐานการชดเชยอีกด้วย

  • มาตรฐาน Tokenization ที่ได้รับการยอมรับ

ธนารัตน์ ย้ำว่า บล็อกเอจ ถือว่าเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ให้บริการแปลงคาร์บอนเครดิตไทยประเภท T-VER และ Premium T-VER เป็น Utility Token กลุ่มที่ 1 ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยได้มีการหารือร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) เพื่อกำหนดมาตรฐานการ Tokenize ซึ่งจะถูกแบ่งเป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของคาร์บอนเครดิตและระดับราคา

ที่ผ่านมาตามประกาศของ ก.ล.ต. ระบุว่า Carbon Credit Token ไม่ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเช่น Bitkub ไม่สามารถให้บริการหรือลิสต์เหรียญคาร์บอนได้ ล่าสุด คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมในเดือนมีนาคม มีมติเห็นชอบหลักการและพิจารณาปลดล็อคให้สามารถเทรดได้ โดยมติดังกล่าว ก.ล.ต. จะดำเนินกระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (public hearing) และคาดว่าจะสรุปผลให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนต่อจากนี้

  • พันธมิตรด้านเทคโนโลยีร่วมผลักดันโซลูชัน

เกศรา เทียนไชย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บล็อกเอจ จำกัด กล่าวว่า เพื่อให้การซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วย Tokenization ทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น บล็อกเอจ ได้ร่วมมือกับ บริษัท โดมคลาวด์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบบล็อกเชน และบริษัท โทเคไนน์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้าน Web3 Transformation เพื่อพัฒนาโซลูชันการซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่านบล็อกเชนให้มีความโปร่งใสและมีสภาพคล่องสูงขึ้น

“บล็อกเอจทำให้ตลาดคาร์บอนเครดิตของไทยเป็นสากล เปิดกว้างสำหรับทุกภาคส่วน ไม่ว่าองค์กรขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ รวมถึงระดับบุคคล” เกศรา กล่าว

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

“ซื้อ 1 ให้ 10” ไทวัสดุ-เฟรมเม็กซ์ สนับสนุนการศึกษาเด็กไทยในพื้นที่ห่างไกล

ในยุคที่ภาคธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) มากขึ้น ไทวัสดุ และ เฟรมเม็กซ์ ได้ร่วมมือกันเปิดตัวแคมเปญเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ “ซื้อ 1 ให้ 10 ประตูหน้าต่าง เพื่อโรงเรียนของหนู” มุ่งเน้นช่วยเหลือโรงเรียนในพื้นที่ทุรกันดาร ผ่านการแปรยอดขายสินค้ามาเป็นเงินบริจาคเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้กับเด็กไทย

You May Like