“กรุงศรีฯ” ตั้งเป้าสถานบันการเงินที่ยั่งยืน ดึงศักยภาพบุคลากร ปลูกฝัง Growth Mindset เติบโตตาม Career Path เปิดโอกาสทุกคนมีสิทธิออกเสียง พร้อมขยับขยายช่องทางการเติบโตในทุกยูนิตที่ต้งอการ
ดร. วศิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา วางเป้าหมายการเติบโตเป็นสถาบันการเงินที่ยั่งยืน ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ สนับสนุนและส่งเสริมพนักงาน ด้วยการปล็ดล็อคศักยภาพของพนักงาน เรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในปัจจุบัน และพร้อมสำหรับอนาคต ช่วยให้พนักงานประสบความสำเร็จได้ในทุกๆ วัน และเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้พนักงาน สามารถแสดงศักยภาพและสนับสนนการเติบโตในสายอาชีพ ควบคู่กับการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น การพัฒนาศักยภาพการเป็นผู้นำ การพัฒนาบุคลากรผู้มีศักยภาพสูง เปิดโอกาสให้พนักงานเข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ด้วยแนวทางดังกล่าว ทำให้ที่ผ่านมา อัตราการลาออกของพนักงานกรุงศรีฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือ 7-8% จากก่อนหน้านี้มีอัตราการลาออกกว่า 10%
“สาเหตุที่ตัวเลขการลาออกลดลง มีทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ปัจจัยภายนอกอาจะมาจากสภาพเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อม ที่ทำให้คนทำงานต้องการสถานที่ทำงานที่มั่นคง ส่นปัจจัยภาพใน มาจากการที่กรุงศรีฯ พยายาม Engage พนักงานให้มากขึ้น ด้วยรูปแบบและกิจกรรมมากมาย เพื่อกระตุ้นให้พนักงานเกิด Growth Mindset ทำให้ตัวเองเติบดตและส่งผลให้องค์กรเติบโต”
ดร.วศิน กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของกรุงศรีฯ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประเทศไทย แต่ยังขยายออกไปสู่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้น การบริหารงานให้องค์กรเติบโต พนักงานและลูกค้าจะต้องเติบโตไปกับกรุงศรีฯ ด้วยเช่นกัน และการที่จะเป็นเช่นนั้นได้ คือ ต้องดูแลพนักงานให้มีความสุข นอกเหนือจากเรื่องของรายได้ ก็คือการเติบโต การประสบความสำเร็จ ออกไอเดียแล้วมีคนรับฟ้ง
กรุงสรีฯ มีแพลทฟอร์มที่จะขับเคลื่อนการเรียนรู้ของพนักงาน มีคลาสรูมเทรนนิ่ง ซึ่งปัจจุบันพัฒนาไปสู่รูปแบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้พนักงานสะดวกที่จะเข้าอบรมเมื่อพร้อม มีการทำ E-House training ไปในระดับโกลบอล มีห้องสมุด และแพลทฟอร์มต่างๆ โดย 70% คือการเรียนรู้ Learning by Doing อีก 20% คือการโค้ชชิ่งจากคนรอบข้าง ผู้บริหาร หรือคนอื่นๆ มีการไปศึกษาดูงานต่างประเทศ และ 10% คือการเรียนรู้ในห้องเรียน เปิดกว้างให้พนักงานได้เลือก ได้พัฒนาตัวเองในทิศทางที่ต้องการ รวมไปถึง สร้างโอกาสการเติบโต ให้กับพนักงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ที่กรุงศรีฯ ไปประกอบธุรกิจ
ขณะเดียวกัน ก็พยายามสร้าง Talent Management ซึ่งปัจจุบันมี Talent มากกว่า 100 คน และยังทำ Hybrid Work ฟังก์ชั่นงานที่ทำได้ คือให้เข้าออฟฟิศอาทิตย์ละสองวัน ซึ่งได้รับการตอบรับดีมากจากพนักงาน
อีกหนึ่งโปรแกรมสำคัญ ที่ช่วยเปิดโอกาสให้พนักงานได้เติบโตในสายงานที่ถนัดหรือต้องการ คือการหมุนเวียนพนักงาน (Job Rotation) ซึ่งถือเป้นภาคบังคับ และเป็น KPIs สำหรับหัวหน้างานทั้งหลาย ที่ต้องเปิดโอกาสให้ทีมงานได้หมุนเวียนตามความเหมาะสม
ตั้งแต่ปี 2553 กรุงศรีฯ จัดทำโปรแกรม VOK (voice of krungsri) ฟังเสียงพนักงาน แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข รวมถึงการพัฒนาแนวคิดสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับความยั่งยืน ตั้งแต่การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) หรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Sustainable Workplace) ที่ทุกๆ คนสามารถ เป็นตัวเองได้ และทำหน้าที่ของตัวเอง
การสร้างให้พนักงานมีความสุข ทั้งสุขภาย และ สุขใจ โดยมองพนักงานไม่ใช่เพียงพนักงานที่มาทำงานเท่านั้น และให้ความสำคัญกับ Wholeness of being ในรอบๆ ด้าน โดยสามารถนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์และการสร้างนวัตกรรม สู่การดูแลลูกค้าได้อย่างสร้างสรรค์ และสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้
ดร.วศิน กล่าวอีกว่า กรุงศรีสร้างวัฒนธรรมผ่านแนวคิดหลัก คือ “การมีส่วนร่วม” ของพนักงาน ที่เป็นตัวแทนของทุกฝ่ายงาน โดยมองจากมุมมองที่ครบถ้วน เพื่อนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมที่องค์กรต้องการแรงผลักดันและสิ่งที่มองไปในอนาคตในเรื่องคน พร้อมทั้เงปิดกว้างให้กับคนทุกกลุ่มที่จะเข้าร่วมงานกับกรุงศรีฯ อย่างเท่าเทียม
ทั้งหมดเกิดจากวัฒนธรรมองค์กรที่สำคัญ คือ Care, Communicate และ Coach เพื่อให้ทุกคนเติบโตไปพร้อมกัน และผลจากการบริหารงานด้วยรูปแบบดังกล่าว ทำให้กรุงศรีฯ ได้รับรางวัลเกี่ยวกับเรื่อง การบริหารจัดการองค์กรและทรัพยากรบุคคลต่อเนื่อง และในปีนี้ ยังได้รับรางวัล คือ
- Krungsri Bank: Gold Award for Excellence in Talent Management Ila: Gold Award for Excellence in Hybrid Work
- KS Auto: Silver Award for Excellence in HR Communication Strategy
- KS Consumer: Silver Award for Excellence in Workforce Flexibility