0
0
ภูเก็ตบูมไม่หยุด “มอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต” จับมือพาร์ทเนอร์ “โบทานิก้า ลักเซอรี่” พัฒนาลักชัวรี่โปรเจค 30 ไร่ ปั้น worldclass destination ครอบคลุมพื้นที่ 450 ไร่ สร้างสุดยอดอาณาจักรซูเปอร์ไฮเอนด์มิกซ์ยูสริมทะเลไทย-เอเชีย
เศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหารมอนท์เอซัวร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรใหม่ โบทานิก้า ลักเชอรี่ ผู้พัฒนาที่ดินและเจ้าของโปรเจคลักชัวรี่ที่ดำเนินธุรกิจในภูเก็ตมากว่า 20 ปี ร่วมพัฒนาพื้นที่ 30 ไร่ ในโครงการมิกซ์ยูสระดับซูเปอร์ไฮเอนด์บนชายหาดกมลา จังหวัดภูเก็ต เพื่อดินหน้าสู่การเป็น “The Ultimate Beach Front Community in Thailand and Asia” บนพื้นที่ 454 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท
โปรเจคล่าสุดนี้ เป็นโครงการวิลล่าหรูระดับลักชัวรีวิวทะเล ภายในโครงการมอนท์เอซัวร์ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณเชิงเขากมลา ห่างจากชายหาดเพียง 400 เมตร มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,600 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 49-170 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการวิลล่าหรูในภูเก็ต จากกำลังซื้อในตลาดไฮเอนด์ที่กำลังมาแรงจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะรัสเซีย
“ที่เรากล้าทำราคาขนาดนี้ เพราะมั่นใจในความแตกต่างและโดดเด่นด้านดีไซน์ และคุณภาพ ด้วยขนาดวิลล่าใหญ๋ที่สุด อยู่ที่ 800-1,000 ตารางเมตร และเล็กสุดอยู่ที่ 550 ตารางเมตร” อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โบทานิก้า ลักเซอรี่ ภูเก็ต จำกัด กล่าว
โครงการเตรียมเปิดห้องตัวอย่าง Show Villa ให้ผู้สนใจเข้าชมในช่วงปี 2024 และคาดว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี
เศรษฐพล อธิบายเพิ่มเติมว่า โปรเจคที่พัฒนาขึ้นตอบรับเทรนด์การลงทุนอสังหาฯ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ที่กำลังบูมสุดขีด ตามโร้ดแมป Strategic Partnership หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงจากโครงการ Twinpalms Residences MontAzure และ MGallery Residences MontAzure
สำหรับโครงการมอนท์เอซัวร์ (MontAzure)ประกอบไปด้วย โครงการที่พักอาศัยหรูแบบถือครองกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ บริหารงานโดยแบรนด์ดังระดับโลก โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว บีชคลับ ร้านอาหารมิชลินสตาร์ และบริการระดับเวิลด์คลาสอื่น ๆ อีกมากมาย บนความร่วมมือของพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างชาติ
ส่วนโครงการ Twinpalms Residences MontAzure ขนาด 73 ยูนิต หนึ่งในโครงการที่พักอาศัยในมอนเอซัวร์ ปัจจุบันขายแล้วเกือบหมด เหลือเพียงเพนต์เฮาส์ห้องสุดท้าย ในขณะที่ MGallery Residences MontAzure เรสซิเดนซ์ระดับลักชัวรี กวาดยอดขายไปแล้วกว่า 50% ราคาประมาณ 1.8- 2 แสนบาทต่อตารางเมตร
ความสำเร็จของมอนท์เอซัวร์ เกิดจากการร่วมมือของกลุ่มพันธมิตรนักลงทุนและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเอเชียทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ The Narai Group (จากประเทศไทย), ARCH Capital (จากฮ่องกง) และ Philean Capital (จากสิงคโปร์) ในเครือ Pontiac Land Group ซึ่งร่วมกันพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสซูเปอร์ไฮเอนด์ ที่ประกอบไปด้วยแบรนด์เรสซิเดนซ์หรู โรงแรมระดับ 5 ดาว วิลลาหรู รีเทล บีชคลับระดับเวิลด์คลาส และอีกมากมาย พร้อมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและนักลงทุนที่กำลังมองหาโครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ รวมไปถึงการลงทุนที่คุ้มค่า ที่เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายเต็มรูปแบบบนชายหาดกมลาที่สวยงามของเกาะภูเก็ต หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังติดอันดับโลก
เศรษฐพล แสดงความเชื่อมั่นและบอกเล่าถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโครงการหรูระดับลักชัวรีว่า แนวทางการพัฒนาธุรกิจของเราสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของการท่องเที่ยวและตลาดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของภูเก็ต เรายังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของการสร้างประสบการณ์และพัฒนาโครงการระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ริมชายหาดที่ยากจะหาใครเทียบ ด้วยทำเลเลียบชายหาดกมลาใจกลางเกาะภูเก็ต มอนท์เอซัวร์ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของโครงการมิกซ์ยูสสุดหรูที่สมบูรณ์แบบ โดยเรายังเดินหน้าสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพในอาณาจักรมอนท์เอซัวร์แห่งนี้ต่อไป
ปัจจุบันตลาดอสังหาฯ ระดับหรูในภูเก็ตกำลังมาแรง ด้วยแรงหนุนจากความมั่งคั่งและการย้ายถิ่นพำนักของกลุ่มเศรษฐีระดับโลกที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ภูเก็ตมีการเติบโตที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเรสซิเดนซ์ที่บริหารโดยแบรนด์ชั้นนำ โดยคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2022-2027 กลุ่มบุคคลที่มีรายได้สูงพิเศษ (UHNWIs) จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น 28.5% ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในสหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา ออสเตรเลีย อินเดีย เยอรมนี และสหราชอาณาจักร โดยมีกลุ่ม UHNWIs ถึง 17% ที่ซื้อบ้านในปี 2022 และ 15% กำลังพิจารณาซื้อเรสซิเดนซ์ของแบรนด์ชั้นนำในปี 2023
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถือเป็นจุดหมายสำคัญเพราะเป็นที่ตั้งของเรสซิเดนซ์ของแบรนด์ชั้นนำถึง 20% ของทั่วโลกและยังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คาดว่าภายในปี 2027 การเดินทางทั่วโลกจะเพิ่มมากกว่าก่อนช่วงการแพร่ระบาดถึง 31% โดยเฉพาะในภูมิภาคแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความต้องการที่พักระดับหรูในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำอย่างภูเก็ตอย่างมีนัยสำคัญ
วันนี้ ภูเก็ตกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอสังหาฯ ชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนชาวรัสเซียและชาวยุโรป ในช่วงต้นปี 2023 ที่ดินชายทะเลในภูเก็ตราคาพุ่งขึ้นถึงไร่ละ 70 ล้านบาท ในขณะที่พื้นที่อื่น ๆ มีมูลค่าราว 30-40 ล้านบาท ซึ่งทำเลทองที่ได้รับการพัฒนาและมีโรงแรมและคอนโดขึ้นหนาแน่น ได้แก่ หาดป่าตอง กมลา กะตะ และกะรน
“ปัจจุบัน ตลาดอสังหาระดับหรูของภูเก็ตดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติที่มองหาบ้านหลังที่สองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน และโอกาสในการลงทุน ภาคการท่องเที่ยวพลิกฟื้นเติบโตอีกครั้งหลังจากช่วงโควิดและสืบเนื่องจากกลยุทธ์การวางเป้าหมายการท่องเที่ยวในกลุ่มจีน รัสเซีย อินเดีย และอื่นๆ รวมถึงแผนเตรียมการให้ฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียก็ช่วยกระตุ้นการเดินทางได้มากเช่นกัน”
นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น ๆ เช่น สถานการณ์ทางการเมืองทำให้ชาวรัสเซียจำนวนมากหันมาลงทุนอสังหาฯ ในไทยเพื่อความปลอดภัย รวมถึงยังหลงเสน่ห์ของภูมิอากาศและปัจจัยค่าครองชีพที่คุ้มค่า การกลับมาเปิดประเทศหลังภาวะการแพร่ระบาดผ่านพ้นทำให้มีนักลงทุนหลั่งไหลมาสู่ไทยมากขึ้น อย่างไรก็ดี สำหรับภูเก็ต ชาวรัสเซียเริ่มมีมูลค่าการซื้อสูงขึ้นมากเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มเซกเมนต์วิลลาระดับหรู ซึ่งมียอดขายปี 2022 สูงสุดในรอบ 5 ปี
เมื่อพิจารณาในช่วงต้นปี 2023 นักลงทุนชาวรัสเซียกับสหรัฐฯ มีกำลังซื้อมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่น่าสังเกตคือการมีชาวรัสเซียเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ส่งผลให้ยอดขายวิลลาหรูในภูเก็ตเพิ่มขึ้นถึง 338% โดยครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าชาวรัสเซีย ดังนั้นแม้ว่าครั้งหนึ่งชาวจีนจะเคยเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของภูเก็ต แต่ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกลับมีจำนวนมากกว่า และมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ
- MGallery ลักชัวรี่แบรนด์
นอกจากนี้ กลุ่ม Accor ได้ประกาศการปรับแบรนด์ MGallery จากระดับ Premium ขึ้นเป็นระดับ Luxury อย่างเป็นทางการ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อห้องชุดในโครงการ MGallery Residences MontAzure คอนโดมิเนียมมูลค่ากว่า 2.2 พันล้านบาท ด้วยมาตรฐานการดำเนินงานในระดับโลกและการดูแลรักษาโครงการในระดับห้าดาว โดยลูกบ้านจะได้รับบริการ Care Services ตามมาตรฐานของ MGallery รวมทั้งทางเลือกรับบริการ Concierge เพื่อประสบการณ์ความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
รวมถึงเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะบริการการดูแลโครงการอย่างเหนือชั้นบนมาตรฐานเดียวกับเรสซิเดนซ์และโรงแรมหรูระดับโลก ได้รับตัวเลือกบริการในกลุ่ม A La Carte มีพนักงานดูแลประจำโครงการ คอยทำหน้าที่ประสานงานบริการทั้งหมด เพื่อให้ผู้พักอาศัยมั่นใจว่าทุกความต้องการจะได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็วและดีเยี่ยมไร้ที่ติ ความมุ่งมั่นในการให้บริการที่เป็นเลิศนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างคาดไม่ถึง ตอกย้ำถึงสิทธิประโยชน์ที่เกิดจากการยกระดับแบรนด์และความเป็นเลิศของ MGallery Residences MontAzure
ทั้งนี้ เจ้าของห้องชุดยังสามารถเข้าร่วมโปรแกรมเอ็กซ์คลูซีฟ Accor Ownership Benefit ในสถานะ VVIP รับสิทธิพิเศษได้ทั่วโลกในฐานะ Diamond Level ของ LeClub AccorHotels ซึ่งจะเปิดประตูสู่โลกแห่งเอกสิทธิ์สุดพิเศษมากมาย อาทิ เพิ่มสิทธิการจองห้องพัก การอัปเกรดห้อง ตลอดจนสิทธิประโยชน์และบริการอื่น ๆ ซึ่งลูกบ้านของ MGallery Residences MontAzure จะได้รับมาตรฐานการบริการที่เหนือระดับนี้โดยตรง ปัจจุบันโครงการได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2567
จุดเด่นของ MGallery Residences MontAzure คือห้องพักในบรรยากาศบูติกที่ได้รับการออกแบบที่สวยงาม โดยผสานวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของท้องถิ่นเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว แต่ละยูนิตจึงเปี่ยมด้วยมนต์สเน่ห์ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบต่างระดับและพันธุ์ไม้มากมาย สร้างความงดงามที่แตกต่าง ช่วยเพิ่มสุนทรีภาพของการใช้ชีวิตที่หรูหราและมีความเป็นส่วนตัวสูงสุด นอกจากนี้ ยังนำเสนอบริการมากมายที่เลือกได้ตามต้องการ จึงการันตีถึงมาตรฐานไลฟ์สไตล์ที่หรูหราไร้ที่ติ รวมถึงส่วนบริการที่มีชื่อเสียงระดับโลกของแบรนด์MGallery ทั้งห้องอาหารรสเลิศไปจนถึงสปาเพื่อสุขภาพ ช่วยเติมเต็มเสน่ห์ของการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะภูเก็นี้
- Twinpalms Residences MontAzure
สำหรับ Twinpalms Residences MontAzure มีรูปแบบของรีสอร์ตและที่พักอาศัยระดับ 5 ดาวริมหาดกมลา มีพื้นที่หน้าหาดยาวถึง 100 เมตร โครงการนำเสนอห้องชุดแบบ 1 และ 2 ห้องนอนรวม 73 ยูนิต รวมถึงเพนท์เฮาส์ที่เปิดรับทิวทัศน์ของทะเลอันดามัน ได้รับการออกแบบโดย Martin Palleros จากTierra Design บนทำเลทองที่เป็นที่ต้องการของทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ ทำให้โครงการได้รับการตอบรับที่ดีจนสามารถปิดการขายได้เกือบ 100% ซึ่งล่าสุดเหลือเพียง 1 ยูนิต เป็นเพนท์เฮาส์พร้อมสวนพักผ่อนและสระว่ายน้ำส่วนตัว ที่ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดสุดท้ายบนชายหาดกมลานี้
ผู้พักอาศัยจะได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งแล็ปพูล สระว่ายน้ำติดริมชายหาด บีชเลาจน์ริมหาด สปา ห้องฟิตเนสและโยคะ ห้องสมุดและบริการอื่น ๆ อีกมายมายในโครงการมอนท์เอซัวร์ เน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แบบลักชัวรี รวมถึงการเติบโตของการท่องเที่ยวภูเก็ตซึ่งยังคงเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยจึงมั่นใจได้ว่านักลงทุนที่แสวงหาโครงการอสังหาฯ เพื่อการลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าด้วยโอกาสการถือครองกรรมสิทธิ์แบบฟรีโฮลด์ โดยสามารถเลือกเข้าพักได้ในช่วงเวลาที่ต้องการและรับผลตอบแทนจากการบริหารของแบรนด์ทวินปาล์มแบบครบวงจร ทั้งนี้ลูกค้าชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของยูนิตสุดหรูของโครงการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้อสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เป็นเพียงบ้าน แต่เป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล ดังเช่นที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ระดับโลกอย่างลอนดอนและฮ่องกง มอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต ยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของการสรรค์สร้างที่อยู่อาศัยริมชายหาดที่ยั่งยืน เพื่อให้เป็นสรวงสวรรค์แหล่งรวมห้องพักอาศัยระดับหรู โรงแรมที่สวยงามทันสมัย บีชคลับริมชายหาดบรรยากาศเยี่ยม ร้านอาหารรสเลิศ และพูลวิลลาอันงดงาม ซึ่งในปัจจุบัน เปิดให้บริการแล้วทั้งโรงแรมทวินปาล์ม มอนท์เอซัวร์ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ทคาเฟ่ เดล มาร์ บีชคลับ ชิมเมอร์ บีช เลาจน์ และ ร้านอาหาร 333 at the Beach โดยยังมีแผนการพัฒนาอีกหลายโครงการอันน่าตื่นใจ พร้อมเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในอนาคตภายใต้อาณาจักร มอนท์เอซัวร์ ภูเก็ต
