วันมะเร็งโลก 2567 โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดโครงการรณรงค์ Stand up to CANCER Together ลดวิกฤต ปิดช่องว่าง ลุกขึ้นสู้มะเร็งไปด้วยกัน
รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ บูรณาการความร่วมมือเดินหน้ารณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคมะเร็งแก่ประชาชนจัดบริการวิชาการโครงการรณรงค์เนื่องในวันมะเร็งโลก ประจำปี 2567 Stand up to CANCER Together ภายใต้ธีม Close the Care Gap ลดวิกฤตปิดช่องว่าง ลุกขึ้นสู้มะเร็งไปด้วยกัน ร่วมรณรงค์ลดวิกฤตโรคมะเร็งในประเทศไทย สร้างการตระหนักแก่ประชาชน เพราะทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติการณ์โรคมะเร็งได้
พร้อมทั้งผลักดันและร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติของประเทศไทย เพื่อร่วมกันลดวิกฤต ปิดช่องว่าง ให้คนไทยสามารถเข้าถึงการป้องกันดูแลและรักษาโรคมะเร็งที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม
โรคมะเร็งถือเป็นวายร้ายคุกคามสุขภาพอันดับต้น ๆ ในยุคนี้แทบทุกคนมีคนใกล้ตัวที่เคยเผชิญหรือเฉียดใกล้กับโรคมะเร็ง การรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจในหมู่ประชาชนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) และองค์การอนามัยโลก (WHO) จึงได้กำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันมะเร็งโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อรวมพลังกันช่วยชีวิตและปกป้องผู้คนหลายล้านคนจากโรคมะเร็ง ด้วยการรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคมะเร็งในทุก ๆ ด้าน และร่วมกันผลักดันให้เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของรัฐบาลหรือหน่วยงานในภาครัฐของแต่ละชาติ
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมเนื่องในวันมะเร็งโลกปีนี้ว่า โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาวิจัยและสถาบันการแพทย์ ที่มีส่วนสำคัญในการร่วมส่งเสริมบริการความรู้และการดูแลเชิงป้องกัน เพื่อลดอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ตลอดจนมุ่งเน้นการให้บริการทางการแพทย์ด้านโรคมะเร็งที่เป็นเลิศเพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ขาดแคลน สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการตรวจรักษาโรคมะเร็งที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อสนองพระปณิธานอันแน่วแน่ของ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานผู้ทรงก่อตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์แห่งนี้ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยโรคมะเร็ง
รวมทั้งช่วยประเทศชาติในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ การค้นคว้าวิจัยทางด้านวิชาการ ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการรักษาโรคมะเร็งในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากลทัดเทียมนานาประเทศ
การจัดโครงการรณรงค์ Stand up to CANCER Together ภายใต้ธีม Close the Care Gap ลดวิกฤตปิดช่องว่าง ลุกขึ้นสู้มะเร็งไปด้วยกัน เพื่อร่วมตอกย้ำให้ทุกคนได้ตระหนักและเข้าถึงการดูแลรักษาสุขภาพ ลดภาวะเสี่ยงจากโรคมะเร็ง ด้วยมะเร็งบางชนิดสามารถรักษาได้หากตรวจพบในระยะแรกเริ่ม โดยให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการเข้าถึงสิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของประเทศไทย เพราะทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดอุบัติการณ์โรคมะเร็งในประเทศได้
รวมทั้งร่วมผลักดันและขับเคลื่อนการยกระดับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เพื่อขยายโอกาสทางการรักษาแก่ประชาชนและเติมเต็มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติ เพื่อร่วมกันลุกขึ้นสู้มะเร็ง ลดวิกฤต ปิดช่องว่าง เพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงการป้องกันดูแลและรักษาโรคมะเร็งที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม
สำหรับโครงการรณรงค์ Stand up to CANCER Together ลดวิกฤต ปิดช่องว่าง ลุกขึ้นสู้มะเร็งไปด้วยกัน ได้จัดบริการวิชาการเสวนาให้ความรู้ครอบคลุมทุกมิติของโรคมะเร็งจากคณะแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และภาคีเครือข่ายโดยมีดีเจเอกกี้-เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ เป็นผู้ดำเนินรายการเสวนา เริ่มด้วยการเสวนาช่วง “ยืนหยัดลุกขึ้นป้องกันมะเร็ง” โดย ผศ.พญ.สุวนิตย์ ธีระศักดิ์วิชยา ผู้รั้งตำแหน่งนายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย นพ.ศุภกร พิทักษ์การกุล รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ ผศ.นพ.ณัฐวุฒิ กันตถาวร รักษาการผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการและสังคม วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงการป้องกันและคัดกรองเพราะมะเร็งรู้เร็วรักษาทัน และรู้ถึงสิทธิประโยชน์จากทางภาครัฐที่คนไทยสามารถเข้าถึง ได้จากการขับเคลื่อนนโยบายแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งแห่งชาติ
พร้อมทั้งรณรงค์เชิญชวนสตรีไทยอายุระหว่าง 30-59 ปี เข้ารับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง HPV DNA Self-sampling ฟรี “เลิกเขิน เลิกอาย ไม่ต้องขึ้นขาหยั่ง” ซึ่งเป็นชุดสิทธิประโยชน์ภายใต้โครงการกองทุนส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยมีสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โดยศูนย์บริการสาธารณสุข 53 ทุ่งสองห้องเข้าร่วมให้บริการประชาชน และถึงแม้ว่าสถิติจำนวนผู้ป่วยมะเร็งจะเพิ่มขึ้นทุกปี แต่จำนวนผู้รอดชีวิตก็เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน เพราะความก้าวหน้าของการวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำกว่าสมัยก่อน
เสวนาในช่วง “มะเร็งรุกมา เราลุกขึ้นสู้ด้วยกัน” กับทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำโดย พญ.จอมธนา ศิริไพบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์มะเร็งวิทยา ผศ.พญ.เจษฎาพร พร้อมเที่ยงตรง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์นิวเคลียร์ พญ.เอมวิภา ลือประสิทธิ์สกุล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรกรรมโลหิตวิทยา ร่วมเสวนาสร้างความรู้ความเข้าใจถึงนวัตกรรมความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง ทั้งในด้านของการตรวจวินิจฉัยและรักษาทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่รวดเร็วและแม่นยำ การรักษามะเร็งทางโรคเลือดด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก โดยการใช้เซลล์ตัวเองบำบัด (Autologous Stem Cell Transplant)
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ได้นำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งชนิด Multiple Myeloma โดยผู้ป่วยที่ใช้สิทธิข้าราชการสามารถเบิกจ่ายตรงเพื่อเข้าถึงการรักษาด้วยนวัตกรรมดังกล่าวได้อีกด้วย การรักษาโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ คือ การรักษาที่เข้าถึงผู้ป่วยมะเร็งทุกคนได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้ป่วยกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างยืนยาว โรงพยาบาลจุฬาภรณ์จึงมุ่งเน้นการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงที่ได้มาตรฐานสากล ภายใต้การดูแลรักษาร่วมกันโดยแพทย์เฉพาะทางสหสาขา เพื่อร่วมกันวินิจฉัยข้อมูลและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเพื่อทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับผู้ป่วยมะเร็งแต่ละราย ตลอดจนการดูแลชีวิตและจิตใจและการดูแลแบบประคับประคอง ด้วยแนวทางการดูแลทางการแพทย์แบบองค์รวม ที่มุ่งปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งศูนย์มะเร็งวิทยา
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้รับการรับรองมาตรฐานโดยสมาคมมะเร็งวิทยาแห่งยุโรป หรือ ESMO (European Society for Medical Oncology) ให้เป็น “ESMO Designated Centres of Integrated Oncology and Palliative Care” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองนี้อีกด้วย
ปิดท้ายการเสวนาด้วยการ“เติมเต็มการดูแลเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยมะเร็ง” ทั้งในด้านการวางแผนมีบุตรสำหรับผู้เป็นมะเร็ง ร่วมเสวนากับ พญ.กตัญญุตา นาคปลัด แพทย์เฉพาะทางด้านสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ แพทย์หญิงจิดาภา สำราญ แพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งนรีเวชวิทยา และด้วยการประสบกับปัญหาเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ พยาบาลวิชาชีพ จุฑามาศ มูลภิชัย หน่วยพยาบาลเคมีบำบัด และคุณสิน วิวัฒน์ธนพร ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ขึ้นมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ถึงการปิดช่องว่างของข้อจำกัดดังกล่าวของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ด้วยการเปิดบริการให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ หรือ Home Chemotherapy เพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ลดวิกฤตปัญหาเรื่องเตียงเต็มและเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็งและญาติที่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ในขณะให้ยาเคมีบำบัด
ภายในงานยังมีบูธกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง อาทิ การให้คำปรึกษาและแจกอุปกรณ์เสริมบุคลิกภาพ เช่น เต้านมเทียม วิกผม หมวก การแนะนำแนะนำโภชนาการสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง วิธีการดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน และกิจกรรม “เย็บเต้านมเทียม” กับโครงการ Sabina Sewing Cup Sewing Heart “เย็บเต้ารวมใจ สู้ภัยมะเร็งเต้านม” โดยมี รัก-สุลักษมิ์ ศิริภัทรพงศ์ มิสแกรนด์สุราษฏร์ธานี 2022 และสโมสรนักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำคณะนักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จิตอาสามาร่วมทำกิจกรรมเสริมสร้างทักษะชีวิตและปลูกฝังการช่วยเหลือประชาชนด้วยความเพียรและจิตเมตตา ร่วมทำกิจกรรมเย็บเต้านมเทียมเพื่อส่งมอบให้กับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
การต่อสู้กับโรคมะเร็งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อลดวิกฤต ปิดช่องว่าง และพร้อมลุกขึ้นสู้มะเร็งไปด้วยกัน สำหรับผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ที่ต้องการเข้ารับการปรึกษาเพื่อวางแผนการรักษาโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีรักษา การปลูกถ่ายไขกระดูกและเซลล์บำบัด เวชศาสตร์นิวเคลียร์ ตรวจเพทสแกน สามารถเข้าถึงช่องทางบริการทางการแพทย์ด้านโรคมะเร็งผ่านทาง LINE Official Account โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ @chulabhornhospital (กดเพิ่มเพื่อน: http://nav.cx/8DqLuQm) กดเมนู “บริการโรคมะเร็ง” และเลือกหัวข้อบริการและชนิดมะเร็งที่ต้องการปรึกษาเพื่อเข้าถึงการติดต่อเจ้าหน้าที่ในการให้บริการ พร้อมเตรียมเอกสารเพื่อส่งปรึกษา อาทิ ประวัติการรักษา รายงานการผ่าตัด ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ รายงานผลทางรังสีวินิจฉัยพร้อมซีดี รายงานผลทางพยาธิวิทยา ผลชิ้นเนื้อพร้อมสไลด์บล็อก (ถ้ามี) ผลชิ้นเนื้อไขกระดูก (ถ้ามี) เพื่อคัดกรองประวัติและอาการกับแพทย์ก่อนนัดหมายเข้ารับบริการต่อไปเพื่อประหยัดเวลาและลดการเดินทางมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น