อาร์ทีบี เปิดตัวเคส iPhone 13 ภายใต้แบรนด์ Monocozzi™ พร้อมกัน 4 รุ่น ตัวเคสด้านข้างมีลักษณะเป็น Bumper ที่ช่วยป้องกันแรงกระแทกรอบด้านได้อย่างนุ่มนวล และด้านหลังบริเวณมุมจะมีขอบสูงกว่าเลนส์กล้อง 1 มิลลิเมตร เพื่อปกป้องเลนส์กล้องจากรอยขูดขีดเมื่อเวลาวางและที่สำคัญ เมื่อใส่เคสเข้ากับ iPhone 13 สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Play ได้
บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้า Gadget รายใหญ่ในประเทศไทย เปิดตัวเคสกันกระแทก iPhone 13 พร้อมกัน 4 รุ่น ได้แก่ LUCID Shockproof Polycarbonate&TPU Hybrid Bumper, MOTIF Magsafe Compatible SnapOn Shockproof Hybrid Case, POSH Shockproof Vegan Leather Hybrid Case และ EXQUISITE Magsafe Compatible SnapOn Genuine Leather Protective Case โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย เน้นความแข็งแรงทนทาน รองรับแรงกระแทกรอบด้านได้อย่างดีเยี่ยม ตัวเคสด้านข้างมีลักษณะเป็น Bumper ที่ช่วยป้องกันแรงกระแทกรอบด้านได้อย่างนุ่มนวล และด้านหลังบริเวณมุมจะมีขอบสูงกว่าเลนส์กล้อง 1 มิลลิเมตร เพื่อปกป้องเลนส์กล้องจากรอยขูดขีดเมื่อเวลาวางและที่สำคัญ เมื่อใส่เคสเข้ากับ iPhone 13 สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Play ได้อีกด้วย
สำหรับเคสรุ่น LUCID Shockproof Polycarbonate & TPU Hybrid Bumper เป็นเคสแบบด้านหลังใสที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ มาพร้อม Bumper TPU แบบ Hybrid ที่จะช่วยป้องกันแรงกระแทกและป้องกันฝุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย ในขณะที่มุมด้านล่างตัวเคสดีไซน์ให้มีรูสำหรับสายคล้องโทรศัพท์เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานได้อย่างลงตัว โดย LUCID Shockproof Polycarbonate & TPU Hybrid Bumper สามารถรองรับ iPhone 13 Mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro max วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 590 บาท
ในขณะที่เคสรุ่น MOTIF Magsafe Compatible SnapOn Shockproof Hybrid Case เป็นเคสแบบด้านหลังใสที่ช่วยในการมองเห็นตัวเครื่องได้อย่างชัดเจน มาพร้อม Bumper TPU แบบ Hybrid ที่จะช่วยป้องกันแรงกระแทกและป้องกันฝุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายสามารถรองรับการใช้งาน Magsafe ชาร์จแบบไร้สาย สำหรับ iPhone 13 ที่เสริมด้วยการฝังแม่เหล็กไว้ในเคสได้อย่างลงตัว โดย MOTIF Magsafe Compatible SnapOn Shockproof Hybrid Case สามารถรองรับ iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 990 บาท
ในส่วนเคสรุ่น POSH Shockproof Vegan Leather Hybrid Case เป็นเคสคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่ด้านหลังผลิตจาก Vegan Leather หนังคุณภาพดีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมาพร้อม Bumper TPU แบบ Hybrid ที่จะช่วยป้องกันแรงกระแทกและป้องกันฝุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเคสรุ่น POSH Shockproof Vegan Leather Hybrid Case สามารถรองรับ iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 990 บาท
นอกจากนี้ยังมีเคสรุ่น EXQUISITE Magsafe Compatible SnapOn Genuine Leather Protective Case เป็นเคสที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ตัวเคสผลิตจากหนังแท้ สามารถช่วยป้องกันแรงกระแทกรอบด้านได้อย่างนุ่มนวล ทั้งยังรองรับการใช้งาน Magsafe ชาร์จแบบไร้สายสำหรับ iPhone 13 ที่เสริมด้วยการฝังแม่เหล็กไว้ในเคส เมื่อใส่เคสเข้ากับ iPhone 13 โดยเคสรุ่น EXQUISITE Magsafe Compatible SnapOn Genuine Leather Protective Case สามารถรองรับ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 1,590 บาท
สำหรับสาวก Apple ที่สนใจเคสกันกระแทก 4 รุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ Monocozzi™ สามารถหาซื้อกันได้แล้ววันนี้ที่ Studio7, Bb BEYOND D-BOX, iStudio by SPVI, Power Buy, Power Mall, และ D-Plus Focus Shop สำหรับ Online หาซื้อได้ที่ Lazada, Shopee และ 425 degree