“เดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก” ผนึกกำลัง “มิตรผล” และ “เบทาโกร” เฟ้นหาผู้มีใจรักในการทำอาหาร มอบทุนการศึกษาเต็มจำนวน ผ่านโครงการ “Future Chef of the World 2024”เข้าเรียนหลักสูตรเชฟระดับมืออาชีพ มูลค่ารวมกว่า 1.8 ล้านบาท
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก ผนึกกำลังกับบริษัทชั้นนำทั้ง “บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด” และ “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” เพื่อริเริ่มโครงการ “Future Chef of the World” ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการมอบทุนการศึกษา แต่ยังหมายมั่นให้เกิดการรวมพลังด้านทรัพยากร นวัตกรรม รวมถึงความเชี่ยวชาญ เพื่อคัดเลือกบรรดาผู้ที่มีศักยภาพ และบ่มเพาะพวกเขาให้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อน Soft Power ของวงการอาหารในประเทศไทยและระดับสากลในอนาคต
โครงการ “Future Chef of the World 2024” ต้องการเฟ้นหาผู้ที่มีใจรักในการทำอาหาร และมอบทุนการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร (Certificated Courses) การประกอบอาหารและขนมอบ รูปแบบเต็มจำนวน ที่เดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก จำนวน 5 ทุน มูลค่ารวมกว่า 1.8 ล้านบาท โดยการผนึกกำลังของทั้ง 3 องค์กรในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและสรรหาบุคลากรที่ดีที่สุด เพื่อช่วยยกระดับวงการอาหารทั้งในและนอกประเทศ
เดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก เป็นศูนย์รวมของหลักสูตรด้านการประกอบอาหาร เพื่อสร้างเชฟระดับมืออาชีพ ผ่านหลักสูตรประกาศนียบัตร (Certificated Courses) ที่พัฒนาร่วมกับสถาบันพาร์ตเนอร์ระดับโลก ได้แก่ ALMA – The School of Italian Culinary Arts จากประเทศอิตาลี Tsuji Culinary Institute จากประเทศญี่ปุ่น และ Dusit Thani College จากประเทศไทย มากไปกว่านั้น เดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก ยังเป็นโรงเรียนสอนการประกอบอาหารแห่งแรกในประเทศไทย ที่ดำเนินการเรียนการสอนแบบ Competency-based หรือการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างสมรรถนะเฉพาะบุคคล ซึ่งสนับสนุนให้นักเรียนทุกท่านสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ เพื่อก้าวสู่การเป็นเชฟและผู้ประกอบการในธุรกิจด้านอาหารระดับมืออาชีพได้ต่อไป
ด้าน วีระเจตน์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจน้ำตาลประเทศไทย พลังงาน และธุรกิจใหม่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า น้ำตาลมิตรผลเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในวงการอาหารผ่านการเรียนการสอนของ “เดอะฟู้ด สคูล แบงคอก” โดยจะสนับสนุน การนำวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เช่น น้ำตาลและน้ำเชื่อมคุณภาพสูงจากกระบวนการผลิตที่ผ่านการรับรอง มาตรฐานสากล รวมถึง องค์ความรู้ และนวัตกรรมต่างๆ มาช่วยสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหาร เบเกอรี และเครื่องดื่มหลากหลายประเภท เพื่อสนับสนุน การเพิ่มขีดความสามารถให้กับบุคลากรในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารต่อไป
ขณะที่ ชยธร แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานกลยุทธ์และนวัตกรรม บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เบทาโกรในฐานะบริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย ที่ให้ความสำคัญการผลิตอาหารด้วยมาตรฐานและความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ มุ่งหวังที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์โปรตีน หมู ไก่ ไข่ ปลา และโปรตีนทางเลือกที่มีคุณภาพ เข้าสู่ระบบอาหารทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ พร้อมความอร่อยที่เหนือกว่า ในราคาที่เป็นธรรม
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก โรงเรียนสอนการประกอบอาหารนานาชาติ ภายใต้กลุ่มบริษัทดุสิตธานี ริเริ่มโครงการนี้ขึ้น ซึ่งทางเบทาโกรเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทย ผ่านการพัฒนาบุคลากรด้านอาหารมืออาชีพ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อร่วมส่งมอบอาหารคุณภาพไปสู่ผู้บริโภคในวงกว้างต่อไป
สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ “Future Chef of the World 2024” ต้องเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง18–40 ปี สัญชาติไทย และไม่เคยผ่านประสบการณ์การเรียนในหลักสูตรประกาศนียบัตรการประกอบอาหารและขนมเกินกว่า 180 ชั่วโมง หรือประกอบอาชีพการเป็นเชฟระดับมืออาชีพมาก่อน โดยผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและสนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 10 มีนาคม 2567 โดยศึกษารายละเอียดเกณฑ์การรับสมัครเพิ่มเติมได้ที่: programs.thefoodschool.com/futurechefoftheworld2024
รายละเอียดทุนการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร (Certificated Courses) พัฒนาหลักสูตรและสอนโดยสถาบันพันธมิตรชั้นนำระดับโลกของเดอะ ฟู้ด สคูล แบงคอก จากประเทศอิตาลี ญี่ปุ่น และประเทศไทย จำนวน 5 หลักสูตร ได้แก่:
1. หลักสูตรศิลปะการทำเบเกอรีและขนมอบสไตล์อิตาเลียน โดย ALMA – The School of Italian Culinary Arts
มูลค่า 534,250 บาท สนับสนุนทุนโดยกลุ่มมิตรผล
2. หลักสูตรศิลปะการทำขนมปังและเบเกอรีนานาชาติ โดย The Food School Bangkok
และหลักสูตรศิลปะการทำเบเกอรีและขนมอบสไตล์อิตาเลียน โดย ALMA – The School of Italian Culinary Arts
มูลค่า 534,250 บาท สนับสนุนทุนโดยกลุ่มมิตรผล
3. หลักสูตรศิลปะการประกอบอาหารอิตาเลียน โดย ALMA – The School of Italian Culinary Arts
มูลค่า 289,250 บาท สนับสนุนทุนโดยเบทาโกร
4. หลักสูตรศิลปะการประกอบอาหารญี่ปุ่น โดย Tsuji Culinary Institute
มูลค่า 289,250 บาท สนับสนุนทุนโดยเบทาโกร
5. หลักสูตรศิลปะการประกอบอาหารไทย โดย Dusit Thani College
มูลค่า 194,250 บาท สนับสนุนทุนโดยเบทาโกร