0
0
อายิโนะโมะโต๊ะ ประกาศกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนปี 2568 เดินหน้าโมเดล “วัฏจักรอาหารยั่งยืน” สร้างระบบนิเวศทางอาหาร 4 มิติหลัก “การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน – การลดก๊าซเรือนกระจก – การลดพลาสติก – การลดขยะอาหาร” พร้อมขับเคลื่อนโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” หนุนเกษตรกรไทยเติบโตไปพร้อมกัน
สมิชฌน์ เพ็ชร์ดี ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความยั่งยืน บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าเป้าหมายสำคัญของอายิโนะโมะโต๊ะ คือการสร้างธุรกิจอาหารที่ยั่งยืน ผ่านองค์ความรู้ด้าน AminoScience ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ที่ไม่เพียงพัฒนาอาหารให้อร่อยและมีโภชนาการดี แต่ยังต้องลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย เป้าหมายสำคัญในปี 2568 คือการขับเคลื่อน วัฏจักรอาหารยั่งยืน ให้เกิดขึ้นจริง
วัฏจักรอาหารยั่งยืน ครอบคลุม 4 มิติหลัก
1) การจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน
อายิโนะโมะโต๊ะตั้งเป้าหมายให้การจัดซื้อวัตถุดิบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 75% ภายในปี 2568 และจะขยายเป็น 100% ภายในปี 2573 โดยมุ่งเน้นการตรวจสอบย้อนกลับและพัฒนาความร่วมมือกับเกษตรกรไทยผ่านโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” ซึ่งครอบคลุมเกษตรกร 1,300 ครัวเรือน ในกลุ่มมันสำปะหลัง และ 100 ราย ในกลุ่มกาแฟ
2) การลดก๊าซเรือนกระจก (GHG Reduction)
บริษัทฯ นำโมเดล Ajinomoto Bio-cycle มาใช้ในการลดการปล่อย CO₂ ตั้งแต่ภาคเกษตรกรรมถึงการผลิต ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2573 พร้อมเริ่มใช้พลังงานทดแทน เช่น ไบโอแมส และโซลาร์เซลล์ในโรงงาน รวมถึงนำ Carbon Creditมาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในส่วนที่ลดเองไม่ได้
3) การลดพลาสติก (Plastic Reduction)
บริษัทฯ ตั้งเป้าลดการใช้พลาสติกใหม่ (Virgin Plastic) และเพิ่มการใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็น 18% ในปี 2568 พร้อมพัฒนาโครงการรีไซเคิลร่วมกับหน่วยงานภายนอก เช่น การตั้งจุดรับขยะพลาสติก และการนำพลาสติกใช้แล้วไปผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อใช้ในโรงเรียน
4) การลดขยะอาหาร (Food Waste Reduction)
โรงงานอายิโนะโมะโต๊ะ 6 แห่ง ได้ลดขยะอาหารเหลือ 0% แล้ว โดยโรงงาน เบอร์ดี้ อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีโครงการ “Too Good To Waste กินหมดลดโลกร้อน” กระตุ้นให้ร้านอาหารและผู้บริโภคลดขยะอาหารโดยนำวัตถุดิบที่เหลือมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ยังส่งเสริมโครงการ “เมนูรักษ์โลก” ร่วมกับร้านอาหาร เพื่อลดขยะอาหารจากภาคการบริโภค
โครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” พัฒนาเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน
อายิโนะโมะโต๊ะสานต่อความร่วมมือกับภาคเกษตรกรรม พัฒนากระบวนการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
- โครงการมันสำปะหลังยั่งยืน – ใช้เทคโนโลยี AI และ Big Data วิเคราะห์ดิน วางแผนเพาะปลูก และเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกร 40%
- โครงการ Green Coffee Bean (GCB) Farmer Sustainability – สนับสนุนเกษตรกรไร่กาแฟให้ผ่านมาตรฐาน GAP ลดการใช้สารเคมี และไม่เผาไร่
เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มปี 2568: ปรับตัวสู่ยุค “Sustainable & Indulgence”
อุตสาหกรรมอาหารทั่วโลกกำลังปรับตัวรับเทรนด์ใหม่ที่เน้นความยั่งยืนและสุขภาพ ได้แก่
- Health & Indulgence – ผู้บริโภคต้องการอาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ
- Food Tech & Sustainable Agriculture – เทคโนโลยีเกษตรและพลังงานหมุนเวียนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ
- Zero Waste & Circular Economy – การจัดการขยะอาหารและพลาสติกให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“บริษัทฯ มุ่งมั่นเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon ภายในปี 2573 พร้อมลงทุนในพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการลงทุนในคาร์บอนเครดิต โดยลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียนรวม 3,500 ล้านบาท และตั้งเป้าลดคาร์บอนในสโคป 3 และซื้อคาร์บอนเครดิต 10 ล้านบาทต่อปี“ สมิชฌน์ กล่าว
อนาคตของอุตสาหกรรมอาหารขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวสู่ความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือการส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน เทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นในปี 2025 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการเพียงแค่อาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่ยังต้องการอาหารที่ส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับโลกของเรา
การสร้างสมดุลระหว่างผลกำไรและความรับผิดชอบต่อสังคมจะเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าใครจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต
