แกร็บ ขานรับนโยบายรัฐ ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย ร่วมมือ Tourism Taskforce ขยายบริการพรร้อมผลักดันบริการ GrabExecutive เสริมทัพการท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังผลักดันการท่องเที่ยวไทยเติบโตยั่งยืน
วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บตอบรับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มที่ ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025” โดยมีแผนพัฒนาบริการและสนับสนุนกิจกรรมที่สอดรับกับ 3 กลยุทธ์หลักของรัฐบาล เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ประทับใจและครอบคลุมทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว
แกร็บมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมียมสำหรับนักท่องเที่ยว ด้วยการเปิดตัวบริการ GrabExecutive ซึ่งเป็นบริการเรียกรถหรู รองรับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ในราคาสมเหตุสมผล ด้วยรถยนต์ลักซ์ชัวรี Mercedes Benz E Class, BMW Series 5, Toyota Vellfire และ Toyota Alphard ที่พร้อมให้จองล่วงหน้า ตั้งแต่ 4 ชั่วโมงถึง 7 วัน พร้อมกันนี้ ยังขยายบริการไปยังจังหวัดยอดนิยม เช่น ระนอง สตูล ตราด และอำนาจเจริญ เพื่อกระจายการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ที่มีความงดงามแบบ Hidden Gems
นอกจากนี้ แกร็บยังส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านสถานที่ Must-Visit และ Hidden Gems ทั่วไทย โดยช่วยแนะนำแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ ผ่านคู่มือ “Bangkok: Taste, Tour, Treasure” ที่รวบรวมร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ โดยเน้นให้ข้อมูลจากประสบการณ์ของคนขับแกร็บ ผู้ชำนาญพื้นที่และสามารถนำเสนอมุมมองพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน ยังได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมระดับโลกและวัฒนธรรมไทยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสำคัญ เช่น โครงการโอ่งอ่าง Water & Colour เพื่อต้อนรับวันลอยกระทง รวมถึงสนับสนุนเทศกาลดนตรีระดับโลก เช่น Rolling Loud Thailand และ Wonderfruit Festival เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับสากล
วรฉัตร กล่าวว่า แกร็บพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ผ่านการให้บริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และโปร่งใส เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน ตอบรับนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ในการสร้างเศรษฐกิจท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยแกร็บจะเดินหน้าพัฒนาบริการและเสริมความแข็งแกร่งให้กับอีโคซิสเต็มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปี 2568