‘แมคโดนัลด์’ ประเทศไทย เดินตามรอยโกลบอล ชูความยั่งยืนสู่เป้า Net Zero2050 เจาะหาพื้นที่ขยายกรีนสโตร์ พร้อมปรับดีไซน์ร้านลดใช้พลังงาน บริหารจัดการขยะถูกวิธี
กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด กล่าวว่า แมคไทยพร้อมเดินหน้าธุรกิจตามเป้าหมายความยั่งยืนของบริษัทแม่ ที่ตั้งเป้าภายในปี 2050 จะต้องบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) แมคโดนัลด์ ได้เปิด Market Drayton ซึ่งเป็น Green Store แห่งแรกขึ้นที่ประเทศอังกฤษ โดยมีการก่อสร้างด้วยแนวคิดและวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ยางรีไซเคิลปูพื้นเลน ไดรฟ์ทรู ใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิลทำขอบฟุตบาท ใช้ภาพตกแต่งผนังที่ทำจากถ้วยพอลิสไตรีนรีไซเคิล และใช้การห่อหุ้มตัวอาคารด้วยชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องพิมพ์ จอคอมพิวเตอร์ ตู้เย็น และเครื่องล้างจาน ที่ถูกนำมาใช้ใหม่ห หรือ reuse
แมคไทย ในฐานะผู้บริหารแมคโดนัลด์ ก็ไม่รอช้า เดินหน้าธุรกิจสร้างความยั่งยืนด้วยหลัก ESG พร้อมย้ำการเป็น Green & Sustainable ทันที โดยยกระดับคุณภาพการให้บริการให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเทรนด์เทคโนโลยีในปัจจุบัน พร้อมเปิด Green Store สาขาแรกที่คลองสามวา ตกแต่งบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกร้านอย่างใส่ใจด้วยวัสดุรีไซเคิล สร้างบรรยากาศอันร่มรื่นด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ที่ใช้น้ำน้อย ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และยังเปิดจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) และในปี 2567 ก็ตามมาด้วย Green Store สาขา 2 นครธน บนถนนพระราม 2
กิตติวรรณ กล่าวว่า แมคโดนัลด์ สาขานครธน พระราม 2 เน้นการออกแบบและตกแต่งที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้พลังงาน และมีการดีไซน์ผ่านกราฟฟิกรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือ CUBE สร้างความโดดเด่นทันสมัย วัสดุภายในร้าน อาทิ แมคโดนัลด์ร่วมกับพาร์ทเนอร์แบรนด์พลาสติกรักษ์โลกนามีโค่ (NAMECO) ทำถาดรีไซเคิลพลาสติกจากส่วนผสมของเปลือกไข่ (Egg Shell Tray) ทำจากส่วนผสมของพลาสติกหลังการบริโภค (Post-Consumer Recycle – PCR) และเปลือกไข่ซึ่งนับเป็นวัสดุชีวภาพ (Bio-material) ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 50%
มีการติดตั้งโซล่ารูฟ เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ภายในสาขา พร้อมทั้งเปิดจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) และทำพื้นที่สีเขียว สำหรับลูดค้าในการนั่งพักผ่อน รวมทั้จุดจอดรถจักรยาน (Bicycle Friendly) ใช้หลอดไฟ LED ทั้งโครงการ ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าสำหรับให้แสงสว่างได้มากกว่าหลอดไส้ถึง 80%-90% เลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ พร้อมเซ็นเซอร์อัตโนมัติ (Low Water Consumption Sanitary Ware with Auto Censor) ช่วยลดการใช้น้ำได้ถึง 20-30%
นอกจากนี้ยังใช้ระบบปรับลดอุณหภูมิ (Pre-Cool System for Air Conditioner) เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็นของระบบปรับอากาศโดยการลดอุณหภูมิของอากาศก่อนที่จะผ่านไปยังคอยล์ร้อน (Condenser Coil) ให้อยู่ในระดับที่ต่ำและสม่าเสมอ ช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งใช้วัสดุกันความร้อน เพื่อลดการส่งผ่านความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร ลดการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศ และจัดทำถึงขยะรีไซเคิล ส่งเสริมการคัดแยกขยะอย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางการประหยัดพลังงานใน Green Store ทำให้ประหยัดค่าไฟได้เฉลี่ย 10-15%
การสร้าง Green Store แมคโดนัลจะเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและทำที่ตั้ง ส่วนสสขาเดิม แม้จะปรับโฉมเป็น Green Store ไม่ได้ เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่และอาคาร แต่แมคโดนัลด์ได้ปรับปรุงโฉมร้านใหม่ เพิ่มเติมโซน Outdoor มีต้นไม้สร้างบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่วนสาขาที่อยู่ในอาคารต่างๆ เน้นการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการขยะ และอื่นๆ เพิ่มเติม
แมคโดนัลด์มีแผนเปิดสาขาใหม่ 10-15 สาขา และปรับโฉมสาขาเดิม 25 สาขา พร้อมกันนี้ ยังพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้งานในร้าน โดยได้ทยอยปรับสาขาทั้งหมดให้มีตู้ Mc Easy Order เครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (Self-Ordering Kiosk ) หรือ SOK เพิ่มความสะดวกในการสั่งอาหารและจ่ายเงิน โดยมีพนักงาน GEL หรือ Guest Experience Leader ชุดสีชมพูทำหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวก โดยปัจจุบัน แมคโดนัลด์มีสาขาในประเทศไทยรวม 235 สาขา