โอสถสภา เดินหน้าลุยแผนธุรกิจด้าน ESG สร้างความยั่งยืนธุรกิจ สู่การเป็นองค์กร Carbon Neutral ภายในปี 2593 พร้อมประกาศความร่วมมือพิเศษกับ “น้องเนย Butterbear” อินฟลูเอนเซอร์สุดฮอตแห่งยุค ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์ใหม่“คาลพิส แลคโตะ” และ “เบบี้มายด์” หวังสร้างกระแสพลังบวกและความสดใส พร้อมเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
วรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โอสถสภา เดินหน้าเต็มกำลังในการสร้างธุรกิจที่มีความยั่งยืน พร้อมเปิดตัวแผน ESG ที่ตั้งเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนในปี 2568 ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) เพื่อเป็นบริษัทที่เติบโตและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง
- ความมุ่งมั่นเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
วรรณิภา กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายด้าน ESG มาตั้งแต่ปี 2562 และมุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายภายในปี 2568 ทั้งด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสร้างประโยชน์ต่อสังคม และการดำเนินงานอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล
โอสถสภามีแผนพัฒนาการจัดการบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถรีไซเคิลและย่อยสลายได้ 100% ภายในปี 2573 พร้อมตั้งเป้าลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลง 40% ภายในปี 2568 ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จเกือบ 30% แล้ว โดยดำเนินโครงการ “จากขวดแก้วสู่ขวดแก้ว” (Bottle to Bottle) เก็บขวดแก้วรีไซเคิลกลับมาใช้ซ้ำให้ได้ไม่น้อยกว่า 230,000 ตันต่อปี และยังมีแผนก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระยะยาว
- พัฒนาความเป็นอยู่ของผู้บริโภค
ในด้านสังคม โอสถสภามุ่งส่งเสริมสุขภาพผู้บริโภค โดยพัฒนาสินค้าที่มีปริมาณน้ำตาลลดลง 6% ในกลุ่มเครื่องดื่ม ขณะที่กลุ่มสินค้าสุขภาพและลูกอมก็ปรับสูตรตามความต้องการที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เช่น “ซี-วิท” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลดริงค์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีวิตามินซีสูงถึง 1,000 มก. และผลิตภัณฑ์เอ็ม-150 สปาร์คกิ้ง ที่ไม่มีน้ำตาลและใช้คาเฟอีนธรรมชาติ ตอบโจทย์ความสดชื่นพร้อมคุณประโยชน์ครบถ้วน นอกจากนี้ บริษัทยังสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่นรายย่อยในการจัดหาวัตถุดิบเพื่อร่วมสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืนอีกด้วย
- เติบโตสู่อนาคตด้วยธรรมาภิบาลและความร่วมมือ
โอสถสภามีการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทานให้ปรับตัวตามมาตรฐาน ESG เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและเติบโตไปพร้อมกัน ทั้งยังมีกิจกรรมฝึกอบรมให้ความรู้ด้าน ESG สำหรับซัพพลายเออร์กว่า 200 ราย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศและมาตรฐานใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังดำเนินการประเมินด้าน ESG กับคู่ค้า 100% และสร้างโอกาสให้กับคู่ค้า เช่น การสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่นและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงาน นอกจากนี้ยังมีการสื่อสารนโยบายด้านความยั่งยืนแก่คู่ค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจและร่วมมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โอสถสภายังได้ตั้งเป้าหมายให้เป็นองค์กรที่มีคาร์บอนเป็นกลาง (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 และมีการจัดกิจกรรมเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน
- ดึง “น้องเนย” สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์
โอสถสภายังเสริมกลยุทธ์ด้านการตลาดด้วยการนำ “น้องเนย” มาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ ช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่สดใสและมีความทันสมัย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ การเลือกน้องเนยมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ช่วยเสริมความเข้าใจของผู้บริโภคถึงความมุ่งมั่นของโอสถสภาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพและการรักษาสิ่งแวดล้อม
“น้องเนย” ไม่เพียงแค่เป็นตัวแทนของความสุขและความสนุกสนาน แต่ยังถ่ายทอดความน่ารักสดใสที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย จึงมีการสร้าง Brand Collaboration เพื่อให้ “น้องเนย” ได้สื่อสารถึงความสดชื่นผ่านเครื่องดื่ม “คาลพิส แลคโตะ” เครื่องดื่มผสมนมเปรี้ยวสุดฮิต และความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก “เบบี้มายด์” ที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน
วรรณิภา กล่าวว่า โอสถสภามุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพื่อเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค เราจึงใช้กลยุทธ์ Trendsetter Alliance ที่นำเอา ‘น้องเนย’ ซึ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่เต็มไปด้วยพลังบวกและความสดใสมาร่วมงาน เพื่อส่งเสริมการรับรู้แบรนด์ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้อย่างตรงจุด
ที่ผ่านมา โอสถสภาได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากกลยุทธ์ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “M-150 Sparkling” หรือ “MISO ซ่า” ที่ได้ “พี่จอง-คัลแลน” ยูทูบเบอร์ชื่อดังมาร่วมโปรโมต ซึ่งช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอสถสภามั่นใจว่าการนำ “น้องเนย Butterbear” มาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์จะสามารถสร้างความสุขและพลังบวกในช่วงปลายปีนี้ได้อย่างแน่นอน