โอสถสภา ขับเคลื่อนพันธกิจ “ดับกระหาย ได้คุณประโยชน์” ส่งนวัตกรรมเครื่องดื่มลดน้ำตาลยกพอร์ต นำหลักอาหารเพื่อสุขภาพขององค์การอนามัยโลก พัฒนาแนวปฏิบัติทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดี
ดร. วิลเลียม ลีโอ Chief Innovation Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลดน้ำตาลในเครื่องดื่มคือความท้าทายในการทำตลาดเครื่องดื่ม ที่จะต้องคงรสชาติที่อร่อยถูกปากผู้บริโภคเหมือนเดิม แต่ปริมาณน้ำตาลลดลง เพิ่มคุณประโยชน์ทางโภชนาการให้มากขึ้น และยังต้องตอบโจทย์ทางธุรกิจ “ดับกระหาย ได้คุณประโยชน์”
นี่เป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราทำงานอย่างหนัก ซึ่งในปัจจุบัน 99% ของพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มในประเทศของโอสถสภา มีส่วนประกอบของน้ำตาลน้อยกว่า 6%
นอกจากปรับเครื่องดื่มให้มีน้ำตาลน้อยและอร่อยเหมือนเดิมแล้ว โอสถสภายังเดินหน้าภารกิจที่สอง ด้วยการเพิ่มเติมคุณประโยชน์ สร้างความสมดุลด้านโภชนาการและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้บริโภคในบริบทต่าง ๆ เช่น การพัฒนา “M-150 Sparkling Energy Drink” เครื่องดื่มบำรุงกำลังแบบอัดก๊าซ หรือ “มิโซ (Miso)” ที่นอกจากจะเป็นสูตรที่ไม่เติมน้ำตาลและใช้ส่วนผสมจากคาเฟอีนธรรมชาติแล้ว ยังเพิ่ม วิตามิน บี 3 บี 6 และบี 12 ที่มีประโยชน์ต่อระบบสมองและประสาท รวมถึง Zinc ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน หรือ L-Carnitine ที่มีบทบาทสำคัญต่อขบวนการสลายกรดไขมันในร่างกาย เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคแทนการดื่มกาแฟหรือน้ำอัดลมทั่วไป ที่อาจแฝงมาด้วยน้ำตาลและไขมันส่วนเกิน
โอสถสภายังพัฒนาการเพิ่มสมดุลทางโภชนาการ โดยการเติมใยอาหารลงไปในเครื่องดื่ม “คาลพิส แลคโตะ” สูตรใหม่ ที่อุดมไปด้วยแลคโตบาซิลลัสและไฟเบอร์ 5,000 มิลลิกรัม เพื่อช่วยปรับสมดุลทางเดินอาหารและการขับถ่าย หรือนวัตกรรมล่าสุดของเครื่องดื่ม “ซี-วิท” ที่มีการปรับสูตรเพิ่มวิตามินซีสูงถึง 1,000 มิลลิกรัม จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญและต้องการการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะวิตามินซีที่เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
การลดปริมาณน้ำตาล ลดโซเดียม และเพิ่มเติมส่วนผสมที่มีคุณสมบัติส่งเสริมสุขภาพ ทำให้เครื่องดื่มกลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ของโอสถสภาถึง 75% ได้รับตรารับรอง “เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพ”
นอกจากนี้ โอสถสภายังคงมุ่งหน้ายกระดับการส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยได้มีการประกาศนโยบายด้านโภชนาการและสุขภาพ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีคุณค่าทางโภชนาการ มีรสชาติดี และจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงง่าย โดยครอบคลุมการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องดื่มซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของบริษัท อีกทั้งยังกำหนดให้มีการทบทวนเกณฑ์โภชนาการอย่างสมํ่าเสมอ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้บริโภค ควบคู่กับการดำเนินแผนงานด้านความยั่งยืนตามหลัก ESG มุ่งสู่การเป็น “พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต” อย่างยั่งยืน
การลดน้ำตาลและโซเดียมในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม เป็นส่วนหนึ่งขอองการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รายงานว่าปริมาณการบริโภคน้ำตาลของคนไทยลดลงจาก 27 ช้อนชาต่อวัน เหลือ 23 ช้อนชาต่อวัน แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน โดยที่น้ำตาลส่วนเกินนี้มาจากเครื่องดื่มมากที่สุด รองลงมาคืออาหาร และขนม สะท้อนพฤติกรรมและวัตนธรรมการกินของคนไทย ที่ “กินคาว ต้องกินหวาน” ทำให้สัดส่วนการบริโภคน้ำตาลในชีวิตประจำวันค่อนข้างสูง ดังนั้นแล้วภารกิจแรกในการส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้บริโภคคือการลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม