‘โอสถสภา’ ตื่นตัว ประกาศ 5 ภารกิจหลัก มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมพลังรักษ์โลกจากทุกภาคส่วน เปิดเวทีเสวนาต่อยอดความร่วมมือ ‘รัฐ-เอกชน’
วรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โอสถสภาได้วางแผนพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับการขับเคลื่อนธุรกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 โดยกำหนดกรอบการดำเนินงานระยะสั้นภายในปี พ.ศ. 2568 ใน 5 ด้าน ได้แก่
- ห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน คือ การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจกับคู่ค้ารายย่อย จำนวน 450 ราย การพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้จัดหาวัตถุดิบท้องถิ่น 500 ราย และ 100% ของคู่ค้ารายสำคัญได้รับการประเมินครอบคลุม 3 ด้าน คือ สิ่งแวดล้อม (Environment), สังคม (Social) และ ธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG
- ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค คือ 100% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจะมีส่วนประกอบของน้ำตาลลดน้อยลง และ 50% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและลูกอมจะเป็นสูตรปราศจากน้ำตาล
- ด้านการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดย 100% ของบรรจุภัณฑ์จะต้องนำไปรีไซเคิล ใช้ซ้ำหรือย่อยสลายได้ภายในปี พ.ศ. 2573
- ด้านบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะลดปริมาณการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลดลง 40%
- ด้านการจัดการพลังงานและการบริหารการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โอสถสภาจะลดปริมาณพลังงานที่ใช้ในโรงงาน 10% และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต 15% พร้อมตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 30% ภายในปี พ.ศ. 2573 สานเป้าหมายระยะยาวมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือ Carbon Neutrality ภายในปี พ.ศ. 2593
วรรณิภา กล่าวว่า การพัฒนาที่ยั่งยืน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยครอบคลุม 3 ด้าน คือสิ่งแวดล้อม (Environment), สังคม (Social) และ ธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG ซึ่งภาพใหญ่ของการพัฒนาอย่างยั่งยืนของหลายองค์กร คือความมุ่งมั่นและตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตและบริโภค รวมถึงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
โอสถสภาเชื่อว่าด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนและแผนการดำเนินงานครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ที่มีพนักงานเป็นพลังในการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ จะทำให้โอสถสภาสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยที่ดำเนินการธุรกิจมากว่า 132 ปี ได้ตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวและเดินหน้าวางกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับแผนงานทางธุรกิจ พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนเดินหน้าภารกิจรักษ์โลก กระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโลก จัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “Sustainability Dialogue: Mission to Carbon Neutral” โดยได้รวมพลังกับหน่วยงานภาครัฐ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ตลอดจนองค์กรมหาชน เพื่อแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือ รวมถึงทิศทางนโยบายด้านความยั่งยืนจากภาครัฐ นำไปสู่โอกาสในการสร้างเครือข่ายธุรกิจ สานเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยภาพรวมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม