3 เทรนด์บ้านยั่งยืน มาแรงปี 2023

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:5 Minute, 39 Second

“ลิกซิล” เผย 3 เทรนด์ มาแรงเรื่องบ้าน “ความยั่งยืน ลดใช้น้ำ ลดขยะพลาสติก” ยอดฮิต พร้อมการออกแบบเพื่อผู้อยู่อาศัยทุกวัยในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงวัย ขณะที่เทคโนโลยีง่ายๆ ใช้งานได้จริง จะเป็นต้องการมากขึ้น

นาย อันทวน เบแซร์ เดส์ ออรส์ (Antoine Besseyre des Horts) ลีดเดอร์ (VP) ประจำลิกซิล โกลบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า จากการได้ร่วมงานกับนักออกแบบและบุคคลชั้นนำในวงการมากมาย ทำให้สามารถวิเคราะห์เทรนด์ใหม่มาแรงของปี 2023 โดยเทรนด์ที่มาแรงนี้ เริ่มมีอิทธิพลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบตกแต่งภายในบ้าน

การทำงานจากที่บ้านหรือการ Work From Home ยังคงเป็นเรื่องปกติสำหรับหลาย ๆ คนอยู่ ผู้คนจึงมองหาโซลูชันที่สะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังคงความมีสไตล์เอาไว้ ขณะเดียวกัน ความกังวลในเรื่องภาวะโลกร้อน และราคาของวัสดุก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้น ก็ส่งผลต่อเทรนด์ของที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน ผู้บริโภคเริ่มมองหาโซลูชันเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับแก้ปัญหาในบ้านที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ โซลูชันในการลดปริมาณการใช้น้ำ ลดการปล่อยคาร์บอน รวมไปถึงโซลูชันในการลดภาระค่าสาธารณูปโภค

นาย อันทวน เบแซร์ เดส์ ออรส์ (Antoine Besseyre des Horts) ลีดเดอร์ (VP) ประจำลิกซิล โกลบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย
  • 3 เทรนด์มาแรงเรื่องบ้าน ปี 2023
  1. ความยั่งยืน การอนุรักษ์น้ำ และการลดใช้พลาสติก

ความยั่งยืนกลายมาเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ สำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการนำโซลูชันที่มีความยั่งยืนมาปรับใช้ ในปี 2023 นี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านจะถูกออกแบบเพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้นโดยไม่ลดทอนประสบการณ์ที่จะได้รับในแต่ละวัน เราจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ค่อย ๆ มุ่งเข้าสู่ความยั่งยืนและเกิดการหมุนเวียน รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น โดยปรับใช้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการตกแต่งภายใน ผ่านการใช้วัสดุรีไซเคิลในส่วนที่สามารถใช้ได้ และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมคำนึงถึงการนำไปรีไซเคิลในอนาคต

นอกจากนี้ เรายังจะได้เห็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยลดการใช้พลาสติกและน้ำอย่างต่อเนื่อง อย่างในประเทศสิงคโปร์เพียงประเทศเดียวก็พบว่ามีการใช้พลาสติกและน้ำภายในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น โดยหากพิจารณาจากทั่วประเทศแล้ว แต่ละคนจะใช้น้ำปริมาณ 158 ลิตรต่อวัน และใช้ขวด PET 467 ล้านขวดในแต่ละปี ส่วนโถสุขภัณฑ์ ฝักบัว และก๊อกน้ำที่ใช้ทรัพยากรน้ำน้อยลงและลดการใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบจะค่อย ๆ เข้ามามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งการใช้น้ำหลัก ๆ ภายในบ้าน เช่นเดียวกับ GROHE Blue ที่มาปฏิวัติระบบน้ำ เพราะสามารถกรอง ทำความเย็น และเติมคาร์บอนลงในน้ำได้โดยตรงจากก๊อกน้ำในครัว มีส่วนช่วยในการลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกได้มากถึง 800 ขวด ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการสร้างโซลูชันที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นของลิกซิล จะนำข้อบกพร่องในการออกแบบผลิตภัณฑ์มาร่วม และหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพของการอนุรักษ์น้ำโดยไม่ลดทอนประสบการณ์และการเข้าถึงโซลูชันของผู้ใช้

  1. การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มประชากรสูงวัย

แม้ว่า Inclusivity หรือการให้ความสำคัญกับทุกคนจะเป็นคำที่ใช้กันมานานหลายต่อหลายปี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงานที่เปิดกว้าง (Inclusive Workplace) การศึกษาสำหรับทุกคน (Inclusive Education) การใช้ภาษากลางเพื่อความเท่าเทียม (Inclusive Language) ฯลฯ แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องของการออกแบบพื้นที่ทางกายภาพที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่าใดนัก และประเด็นนี้มักไม่ค่อยมีการนำมาพิจารณาเมื่อพูดถึงเรื่องของความหลากหลายและการเปิดกว้าง อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 นี้ เราเริ่มที่จะเห็นแนวโน้มในการผสานรวมการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่และสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่มาช่วยรับประกันว่าสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นจะเอื้อประโยชน์และพร้อมรองรับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยใด ๆ จะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น

หากพูดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้ว เราจะเห็นถึงการเปิดกว้างเมื่อเป็นเรื่องของประชากรสูงวัย เมื่อผู้คนมีอายุมากขึ้น พวกเขาจะเดินภายในบ้านที่มีโครงสร้างเดิม ๆ ได้ลำบากขึ้น และนักออกแบบก็จะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ[4] ชี้ให้เห็นว่า ประชากรสูงวัยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2050 ยกตัวอย่างเช่น อ่างอาบน้ำนับเป็นพื้นที่ที่นักออกแบบจะรังสรรค์ประโยชน์ได้อย่างมากสำหรับประชากรสูงวัย ขอบของอ่างอาบน้ำที่มีขนาดกว้างขึ้นจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก ในขณะที่อ่างแบบวอล์กอินช่วยให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นและป้องกันการลื่นล้ม

แนวโน้มของการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคนจะครอบคลุมสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เราได้เห็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงจากผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงฐานะไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเรียบง่ายและใช้งานได้จริงมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคงความสวยงาม ความมีสไตล์ และมาพร้อมกับการใช้งานที่ง่ายและตรงไปตรงมามากกว่าเดิม เพื่อรองรับผู้ใช้ที่มีความหลากหลาย นักออกแบบและสถาปนิกควรคำนึงถึงเทรนด์นี้เอาไว้เสมอหากพวกเขาต้องการที่จะเป็นผู้นำในเรื่องของการออกแบบ

  1. เทคโนโลยีช่วยให้เกิดความเรียบง่ายและการใช้งานได้จริ

เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์ในปี 2023 ทั้งเรื่องของความยั่งยืน การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคน และการทำให้บ้านมีสไตล์และมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในระหว่างนี้เรายังคงต้องทำงานจากที่บ้านกันต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ เราจะไม่เห็นนวัตกรรมชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่จะมาช่วย “สอดรับทุกความต้องการ” หรือ one-size-fits-all ในการออกแบบภายในใด ๆ การผสานรวมเทคโนโลยีของนักออกแบบจะเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมโดยรอบมากขึ้นเรื่อย ๆ

ตัวอย่างเช่น ก๊อกน้ำแบบไร้สัมผัสและระบบชำระล้างที่ช่วยลดการสัมผัสของผู้ใช้จะยังคงมีการนำมาใช้ในพื้นที่สาธารณะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านสุขอนามัยและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงภายในบ้าน เรื่องความปลอดภัยดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อกังวลเท่าใดนัก การผสานรวมเทคโนโลยีเข้ากับบ้านจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบายมากกว่า เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับระบบฝักบัว Smart Control ของ GROHE ซึ่งใช้นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งฝักบัวได้ตามต้องการ และควบคุมอุณหภูมิและปริมาณการใช้น้ำได้อย่างง่ายดาย

สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเทรนด์ การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นักออกแบบ ช่างก่อสร้าง และสถาปนิกล้วนมีอิทธิพลที่จะผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการออกแบบที่ครอบคลุม การอนุรักษ์น้ำ และความยั่งยืน แต่ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ที่มองการออกแบบจากมุมของความเข้าอกเข้าใจ ความถี่ถ้วน และมีวิจารณญาณ จะมีความโดดเด่นกว่าคนอื่น เพราะตัวเขาเองนั้นกำลังเปลี่ยนชีวิตของผู้คนจำนวนมากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

"ปลาซีลาคานธ์" ปลาดึกดำบรรพ์ที่ไม่สูญพันธุ์...เรื่องเล่าจาก "อ.ธรณ์"

“ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเลและรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นในเฟสบุ๊คส่วนตัว เกี่ยวกับ”ปลาซีลาคานธ์”ปลาเก่าแก่ ที่ยังมีชีวิตอยู่จริง มิได้สูญหายตายจากไปเหมือนเหล่าไดโนเสาร์ 

You May Like