“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” เดินหน้าภารกิจ “1 ปี 1 ภาค” ปีที่ 2 ดึงภูมิปัญญาช่างไม้แกะสลักจากชุมชนบ้านกิ่วแลน้อย สู่ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์รักษ์โลกในสไตล์ Lannavian เปิดตัวคอลเลกชัน “เคียงตั๋ว” ผสานหัตถศิลป์ล้านนา สู่เฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัย ต่อยอดชุมชนสู่ความยั่งยืน
บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านของไทย ยกระดับงานหัตถศิลป์สู่เวทีอุตสาหกรรม เปิดตัวเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชันใหม่ล่าสุด “เคียงตั๋ว” ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนด้าน “สังคม” ผ่านการสร้างงาน สร้างรายได้ และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นในพื้นที่ภาคเหนือ
โดย “เคียงตั๋ว” เป็นผลงานที่ร่วมออกแบบและพัฒนากับช่างฝีมือจาก ชุมชนบ้านกิ่วแลน้อย อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านงานไม้แกะสลัก โดยนำเทคนิคดั้งเดิมมาผสานกับดีไซน์สมัยใหม่ สะท้อนอัตลักษณ์ล้านนาในรูปแบบ “Lannavian” ที่มีกลิ่นอายความอบอุ่น เรียบง่าย แบบ Scandinavian

“เราเชื่อว่าการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ไม่ควรเป็นเพียงเรื่องของฟังก์ชันหรือสุนทรียะ แต่ยังเป็นพลังในการขับเคลื่อนสังคม สร้างโอกาส และสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน”
— กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)
จุดเด่นของคอลเลกชัน “เคียงตั๋ว” – สวยงามอย่างมีเรื่องเล่า

คอลเลกชันประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์ 4 ชิ้นหลัก:
- ตู้ไซด์บอร์ด: โดดเด่นด้วยหน้าบานไม้แกะสลักลายดอกพิกุล ตกแต่งกระจกใสพร้อมไฟวอร์มไวท์ สะท้อนแสงอย่างอบอุ่น
- ชั้นวางของ: โชว์ลวดลายแกะสลักที่ซับซ้อน แฝงแนวคิดเรื่อง “ร่องรอยของกาลเวลา”
- ชุดโต๊ะกลาง+โต๊ะข้าง: ได้แรงบันดาลใจจาก “ช้าง” สัตว์มงคลประจำล้านนา เส้นสายเรียบแต่ทรงพลัง
- อาร์มแชร์: ออกแบบพนักพิงและที่วางแขนเป็นรูปโค้งแบบงวงช้าง รองรับการพักผ่อนอย่างสง่างาม
ทุกชิ้นผลิตจากไม้ยางพาราและไม้สักเหลือใช้จากชุมชน เพื่อลดของเสียและลดการตัดไม้ใหม่ ช่วยรักษาสมดุลระบบนิเวศ พร้อมใช้เทคนิคดั้งเดิมควบคู่กับเทคโนโลยีสมัยใหม่

“การที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์มาเชื่อมโยงกับชุมชนของเรา ไม่ใช่แค่ให้โอกาส แต่เป็นการปลุกพลังความภาคภูมิใจของช่างไม้ท้องถิ่น และเปิดประตูใหม่ให้กับงานคราฟท์ล้านนา”
— แม่อำพร ศรีหาตา ผู้นำชุมชนบ้านกิ่วแลน้อย
เชื่อมคนกับชุมชน – สู่เฟอร์นิเจอร์ที่เล่าเรื่องยั่งยืน
คอลเลกชัน “เคียงตั๋ว” ไม่ได้ตอบโจทย์แค่ด้านการใช้งาน แต่ยังเป็น “บทสนทนาระหว่างเมืองกับชุมชน” ที่แสดงให้เห็นว่า งานฝีมือท้องถิ่นสามารถมีบทบาทในเศรษฐกิจสมัยใหม่ได้อย่างสง่างาม โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจ “สินค้าเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” มากขึ้น

“เคียงตั๋ว ไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์ แต่คือสะพานที่เชื่อมผู้คนให้เห็นคุณค่าในรากวัฒนธรรม และส่งต่อโอกาสสู่ช่างฝีมือท้องถิ่น เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน”
— กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ตั้งเป้าสานต่อโครงการ “1 ปี 1 ภาค” ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในปีต่อ ๆ ไป เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับศิลปะพื้นถิ่นทั่วประเทศ และพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืน
