เพิ่มพูนทักษะการอ่าน ผสานสัมพันธ์ในครอบครัว

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:8 Minute, 1 Second

 องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์  เปิดตัวแคมเปญเด็กทุกคนอ่านได้ – Every Child Can Read เพื่อรณรงค์ให้เด็กนักเรียนและประชาชนทั่วไปได้เห็นถึงความสำคัญของการอ่านหนังสืออันเป็นรากฐานที่สำคัญต่อการพัฒนาการเรียนรู้และต่อยอดสู่ทักษะในด้านต่าง ๆ

พร้อมเดินหน้าโครงการ ‘ห้องสมุดเคลื่อนที่’ ที่จะมุ่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนหนังสือเด็กในบ้านและการขาดทักษะด้านภาษาและการอ่านเขียนของเด็กในครอบครัวที่ยากจนและอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และร่วมสนับสนุนกิจกรรม อ่านสัปดาห์ละเล่ม (A Book A Week) ในโรงเรียนนำร่อง ภายในงานได้รับเกียรติจาก ท่านอานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมเชิญ นิชคุณ หรเวชกุล Friend of UNICEF มาร่วมเผยถึงความรักในการอ่านและพูดคุยกับสองนักเรียนในโครงการ รวมกับคุณครูบรรณารักษ์ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ให้ความสำคัญและมีนโยบายในการยกระดับการศึกษาของเด็กไทยให้มีความเท่าเทียม ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ที่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทลจำกัด ได้ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จัดกิจกรรมระดมทุนนำเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ส่งมอบเงินที่ลูกค้าร่วมบริจาคให้กับองค์การยูนิเซฟประเทศไทย รวมกว่า 37 ล้านบาท

พร้อมส่งมอบรถห้องสมุดเคลื่อนที่รวมทั้งสิ้น 5 คัน เพื่อสนับสนุนการทำงานของยูนิเซฟที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่ชีวิตของเด็ก ๆ ในประเทศไทย เพื่อให้เด็กไทยมีโอกาสทางการศึกษาได้อ่านและเข้าถึงหนังสือที่เหมาะสมกับวัย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางการเรียนรู้ของเด็ก อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าถึงทางการศึกษาที่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต เซ็นทรัล  ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ จึงได้ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย จัดโครงการ “เด็กทุกคนอ่านได้ – Every Child Can Read” เพื่อเชิญชวนลูกค้าและประชาชนทั่วไป ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเท่าเทียมทางการอ่านให้เด็กไทยทุกคน

การร่วมบริจาคเงินสมทบทุนผ่านบริการ CenPay ณ จุดแคชเชียร์ และ กล่องบริจาค ที่ร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์  มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ และ ท็อปส์ เดลี่ ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 – 31 สิงหาคม 2565”

นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “การอ่านมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะทางการรับรู้ของเด็กได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ในอนาคต การอ่านช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็กได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มพูนคลังคำศัพท์ในสมองและพัฒนาทักษะการสื่อสาร ต่อยอดสู่การคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และยังช่วยให้เด็กมีสมาธิที่ดีขึ้น หนังสือเล่มแรก ๆ ที่สนุกสนานและดึงดูดใจเด็ก ๆ จะมีส่วนสำคัญให้พวกเขามีนิสัยรักการอ่านเมื่อเติบโตขึ้น ยิ่งพวกเขาได้อ่านหนังสือมาก ทักษะการอ่านก็จะได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย”

“การอ่านทำให้เด็กมีความฉลาดทางสติปัญญามากขึ้นและยังช่วยให้พวกเขาได้พัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่” นายโธมัสกล่าวพร้อมเสริมว่า “เด็กทุกคนอ่านได้ – Every Child Can Read เป็นโครงการที่ยูนิเซฟได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ทางการศึกษาเพื่อเข้าถึงเด็กและโรงเรียนด้วยกิจกรรมการอ่านอันพัฒนาไปสู่นิสัยรักการอ่าน เราตั้งใจที่จะจัดหาหนังสือเด็กที่เหมาะสมตามช่วงอายุ หนังสือที่มีสาระน่าสนใจ รวมทั้งเอกสารการอ่านให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และครอบครัวที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ มีหนังสือไม่กี่เล่มหรือไม่มีหนังสือเลย โครงการนี้ยังครอบคลุมไปถึงการจัดอบรมแก่ครู ผู้ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และครอบครัว เพื่อพัฒนาทักษะการสอนให้เด็กได้มีพัฒนาการทางการเรียนรู้ของเด็กได้ดียิ่งขึ้น ยูนิเซฟต้องการที่จะให้การอ่านนั้นเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาในประเทศไทย”

ภายในงาน นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องชื่อดังในฐานะ Friend of UNICEF ได้ร่วมพูดคุยกับนักเรียนโรงเรียนห่างไกล และร่วมรณรงค์การสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวผ่านการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านแก่เด็กรุ่นใหม่ “การที่พ่อแม่ได้อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังหรืออ่านไปพร้อมกับลูกตั้งแต่พวกเขายังเล็ก ๆ นั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญและมีค่ามากนะครับ” นิชคุณ Friend of UNICEF เผย “ถึงแม้ในปัจจุบัน พ่อแม่จะยุ่งมากแค่ไหน แต่ผมอยากให้ลองหาเวลาอย่างน้อย 15 นาทีต่อวันอ่านหนังสือไปพร้อม ๆ กับลูกให้ได้ เพราะการอ่านหนังสือกับลูก จะช่วยวางรากฐานการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่เด็ก ๆ อีกทั้งยังสร้างสายใยแห่งความผูกพันในครอบครัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”

แคมเปญ เด็กทุกคนอ่านได้ – Every Child Can Read เปิดตัวพร้อมกับร่วมส่งเสริมกิจกรรม อ่านสัปดาห์ละเล่ม หรือ A Book A Week โดยความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยทั่วประเทศรักการอ่านหนังสือและฝึกทักษะทางสังคมจากการร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างหลากหลาย ขณะที่โรงเรียนที่ร่วมโครงการก็ได้ออกแบบกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ มีความสนุกสนานและท้าทายเพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้เข้าร่วม นอกจากนี้ยังได้นำสื่อออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กมาประยุกต์ใช้ โดยให้เด็ก ๆ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวจากหนังสือที่อ่านพร้อมรูปถ่ายคู่กับหนังสือเล่มโปรดแล้วแชร์ผ่านแฮชแท็ก #อ่านสัปดาห์ละเล่ม ประชาชนทั่วไปที่สนใจก็สามารถเข้าร่วมกับกิจกรรมนี้ได้ เพียงติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์ www.unicef.or.th/abookaweek ที่ได้รวบรวมเอาเคล็ดลับการอ่านที่มีประโยชน์และรายการหนังสือแนะนำที่เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงอายุ

นอกจากนี้ โครงการเด็กทุกคนอ่านได้ ยังได้เตรียมสนับสนุนการจัดสร้างมุมอ่าน (Reading corner) ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโดยเริ่มที่เขตพื้นที่กรุงเทพมหานครควบคู่ไปกับการอบรมครูและผู้ดูแลเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้แก่เด็กอายุระหว่าง 3-5 ปี ขณะที่โครงการ “ห้องสมุดเคลื่อนที่” จะได้รับการสนับสนุนจากทั้งบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และเจ้าหน้าการศึกษาส่วนท้องถิ่นให้เกิดความต่อเนื่องพร้อมขยายการเข้าถึงเด็กให้มากขึ้น โดยรถห้องสมุดเคลื่อนที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่บริการสื่อจะบรรทุกหนังสือ และเอกสารการอ่าน เดินทางไปยังโรงเรียนระดับอนุบาล และโรงเรียนระดับประถมศึกษาขนาดเล็กตามถิ่นทุรกันดารในจังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก และจังหวัดเลยจำนวน 147 แห่ง ซึ่งจำนวนมากเป็นเด็กชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ที่ไม่ได้เข้าโรงเรียน โดยคาดหวังที่จะให้เด็กราว 15,000 คน ได้เข้าถึงสื่อการอ่าน

ผลสำรวจด้านการอ่านโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2561 ระบุว่า เด็กไทยที่อายุน้อยกว่า 6 ปี ใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 42 นาที เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อ 5 ปีก่อน (2556) ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 34 นาที นอกจากนี้ ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติโดยการสนับสนุนของยูนิเซฟในปี 2558-2559 พบว่า มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปีถึง 6 ใน 10 คน มีหนังสือเด็กอยู่ที่บ้านไม่ถึง 3 เล่ม ส่วนเด็กที่มีหนังสือเด็กอยู่บ้านมากกว่า 10 เล่มนั้น ก็มีเพียงร้อยละ 14 เท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่ายิ่งเด็กมาจากครอบครัวที่ขาดแคลน ก็ยิ่งเข้าถึงหนังสือได้น้อยลงและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ

แคมเปญ Every Child Can Read – เด็กทุกคนอ่านได้ มุ่งที่จะระดมทุนจำนวน 17 ล้านบาทเพื่อเพิ่มการเข้าถึงหนังสือสำหรับเด็กและยกระดับพัฒนาการทางการเรียนรู้ของเด็กไทยในอีกสามปีข้างหน้านี้ ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนแคมเปญ Every Child Can Read ได้ ผ่านบริการ CenPay ณ จุดแคชเชียร์ และ กล่องบริจาค ที่ร้านเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ , ท็อปส์ มาร์เก็ต , ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์ และ ท็อปส์ เดลี่ ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 – 31 สิงหาคม 2565”ร่วมแคมเปญ Every Child Can Read ได้แล้ววันนี้ ผ่านกิจกรรม #อ่านสัปดาห์ละเล่ม ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.unicef.or.th/abookaweek

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

ดีแทคตั้งศูนย์ชาร์ตแบตเตอรี่มือถือ บรรเทาภัยน้ำท่วม

ดีแทคลุยตั้งศูนย์ชาร์ตแบตเตอรี่สำหรับมือถือช่วยประชาชน 3 จังหวัดอีสานที่ประสบความเดือดร้อนน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ, อำเภอเขื่อง จังหวัดอุบลราชธานี และอำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นต้น เปิดให้บริการช่วยเหลือชาร์ตมือถืออย่างไม่มีกำหนดเพื่ออำนวยความสะดวกจากกรณีถูกตัดไฟฟ้าจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยมีจุดตั้งเต็นท์ชั่วคราวและหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าพื้นที่น้ำท่วมเพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเพิ่มต่างๆ ดังนี้ ● บริการอาหารและน้ำดื่ม ● อำนวยความสะดวกจัดมือถือให้บริการโทรฟรี ● เติมเงินฉุกเฉินฟรีให้ลูกค้าดีแทคใช้งานโทรออกได้ ทั้งนี้ ดีแทคยังได้จัดทีมดูแลโครงข่ายเข้าพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว เพื่อดูแลและซ่อมแซมสถานีฐานในภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในการใช้งานมือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

You May Like