Priceza.com คาด ตลาดอีคอมเมิร์ซปี 2020 เติบโตขึ้น 35% เจอยาแรงไวรัสโควิด -19 กระตุ้น พร้อมมาตรการล็อคดาวน์ ส่งผล พี่ ป้า น้า อา จิ้มเลือกสินค้าผ่านมือถือรัวๆ กระตุ้นพฤติกรรมรักสบาย ง่าย สะดวก เฟืองฟู
คนไทยทุกรุ่นหันช้อปปิ้งออนไลน์แบบพร้อมเพรียง ดันโลจิสติก 3 ปี โต 40% และยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่เกิดเพียบ
ไพรซ์ซ่า (Priceza.com) ได้ประเมินการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในใช้บริการออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลประกาศมาตรการล็อคดาวน์ จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรับโคโรนา หรือ โควิด -19 โดยคาดว่า มูลค่าตลาดรวมอีคอมเมิร์ซ จะขยับเพิ่มขึ้นถึง 35% หรือประมาณ 2.2 แสนล้านบาท
จากการประเมินของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานข้อมูลยอดขายสินค้าผ่าน E-commerce พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 มีมูลค่าสูงถึง 1,929 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 69,444 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 20% มูลค่า 83,520 ล้านบาท ในปี 2558 หรือมูลค่า 2,320 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าในปี 2559 มูลค่าตลาดจะเพิ่ม 23% และเพิ่มขึ้นมีมูลค่า 5,572 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาทในปี 2563 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตของมูลค่าตลาด ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวทางการค้าของธุรกิจขายปลีกทางอินเทอร์เน็ตจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกับ E-commerce
นอกจากนี้ ไพรซ์ซ่า ยังได้รวบรวมผู้เล่าหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่แห่ลงสนามแข่งขันในธุรกิจกลุ่มอีคอมเมิร์ซมากขึ้นทุกปี โดย Thailand E-commerce Landscape สามารถแบ่งผู้เล่นทั้งหมดออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่
- เครื่องมือการทำการตลาด (Marketing Tools)
แบรนด์ต้องมีการวางแผนการตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงโฆษณา การคิดรายการส่งเสริมการขาย การบริหารจัดการดูแลฐานลูกค้าที่ดี วางแผนช่องทางในการโปรโมท หรือจะเป็นประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักต่อผู้บริโภคมากขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จ ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องมือการทำการตลาดต่างๆ จึงสำคัญกับแบรนด์ผู้ผลิตเป็นอย่างมาก
- อีคอมเมิร์ซ (E-commerce Channel)
ช่องทาง E-commerce เป็นหนึ่งในช่องทางที่ผู้ผลิตต่างๆ ควรที่จะเข้ามาแข่งขันในช่องทางนี้ เนื่องจากว่าปัจจุบันเทคโนโลยี และความก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ตทำให้ไม่มีช่องวางระหว่างผู้ค้าและผู้ซื้ออีกต่อไป การจับจ่ายใช้สอยสามารถทำได้ง่ายๆที่บ้าน ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที
ทำให้การขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแบรนด์ผู้ผลิตสามารถขายผ่าน 3 ช่องทางได้แก่
· E-marketplace การนำสินค้าไปขายบนเว็บไซต์ตลาดสินค้าออนไลน์ ที่รวมร้านค้าหลายแห่งไว้ในที่เดียว ซึ่งเราสามารถไปเปิดร้านในนั้นได้ เช่น Lazada Shopee เป็นต้น
· Social Commerce การขายออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, หรือ Line@ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน Social Media หลายตัวได้เพิ่มฟังก์ชั่นสำหรับการขายสินค้า ทำให้ง่ายต่อการวางขายมากขึ้น
· E-tailer/Brand.com คือการทำร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง ไม่ต้องผ่าน Marketplace คนกลาง ดังนั้นจึงไม่มีการถูกหักค่าคอมมิชชั่นเมื่อเราขายได้ ซึ่งสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์เองผ่าน Webstore Platform ต่างๆ เช่น Tarad, LnwShop หรือเปิดร้านค้าออนไลน์เอง ทำเว็บเอง ขายเอง เช่น Powerbuy.com และ Beauticool.com เป็นต้น
- ระบบการชำระเงิน (Payment)
จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตมากขึ้นทุกๆ ปี สิ่งที่เติบโตควบคู่กัน คือ ระบบการชำระเงิน เมื่อเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยเริ่มก้าวเข้าสู้สังคมยุคไร้เงินสด (cashless society) เห็นได้จากผู้คนเริ่มใช้เงินสดในชีวิตประจำวันน้อยลง และหันมาใช้บริการระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แทน ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินเพื่อซื้อสินค้า การชำระบิลค่าบริการต่างๆ ทำให้การแข่งขันของระบบการชำระเงินมีความดุเดือดมากยิ่งขึ้นทั้งจากผู้เล่นธนาคารและกลุ่มบริษัทเอกชน
- ระบบขนส่ง (Logistic)
จากพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิทัลและการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่สอดคล้องกัน ส่งผลให้ตลาดบริษัทขนส่งในไทยมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ของ SCB: Economic Intelligence Center โดยการคำนวณจากบริษัทขนส่งพัสดุในไทยรายใหญ่ประมาณ 22 ราย ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา 2017-2019 พบว่ามูลค่าตลาดของบริษัทขนส่งในไทยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 40% ต่อปี จากมูลค่าปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท เป็นผลให้การแข่งขันของธุรกิจบริษัทขนส่งมีความดุเดือด รุนแรงมากขึ้นทุกปี เห็นได้จากการกดราคาค่าบริการ เพื่อดึงดูดให้ผู้ประกอบการต่างๆหันมาใช้บริการขนส่งของตน ซึ่งระบบขนส่งก็ยังแบ่งออกยิบย่อยได้อีกเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ประกอบการและผู้บริโภค