“เคอี กรุ๊ป” จับมือ “อาลีบาบา คลาวด์” สร้าง “SKY OS” แพลตฟอร์มแรกในเอเชีย เชื่อมโยงธุรกิจรีเทล-อสังหาฯครบวงจร ติดอาวุธผู้ประกอบการร้านค้าไทย
แม้จะอยู่ต่างอุตสาหกรรมกัน ก็สามารถจับมือกันมาเขย่าวงการธุรกิจได้ ล่าสุด “เคอี กรุ๊ป” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับชั้นนำของประเทศไทย จับมือ “อาลีบาบา คลาวด์” ผู้นำเทคโนโลยีระบบการจัดการอันดับหนึ่ง ของเอเชีย สร้างนิวโมเดลแพลตฟอร์มแรกในเอเชีย ภายใต้ชื่อ “SKY OS” เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงธุรกิจ แบบครบวงจรและทันสมัยของเมืองไทย อีกทั้งยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้หลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก ร้านค้าศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท หวังช่วยผู้ประกอบการ ร้านค้า และธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มช่องทางการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายการลงทุนด้านเทคโนลียี ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนไล่ตามไม่ทัน
นางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอี กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับ บริษัท อาลีบาบา คลาวด์ จำกัด นำโดย นายไทเลอร์ ควิว ผู้จัดการของอาลีบาบา คลาวด์ ประจำประเทศไทย ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อกลุ่มค้าปลีก, ร้านค้า, ศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ภายใต้ชื่อ “SKY OS” เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงธุรกิจแบบครบวงจรและทันสมัยของเมืองไทย อีกทั้งยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้หลากหลายธุรกิจ นอกจากแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจค้าปลีกแล้ว ยังคาดว่าจะมีการพัฒนา “SKY OS” ให้ครอบคลุมการบริหารธุรกิจเรียลเอสเตทอื่นๆ ในอนาคต
ทั้งนี้ “SKY OS” ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลอัจฉริยะและเป็นเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานหลักของอาลีบาบา ซึ่งโซลูชั่นของอาลีบาบา คลาวด์ ได้ให้การสนับสนุนธุรกิจต่างๆ อย่างประสบผลสำเร็จมาแล้วมากมาย ทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เทคโนโลยีการเงิน โลจิสติกส์ สื่อดิจิทัล และธุรกิจบันเทิง ตลอดจนระบบจ่ายเงิน เกตเวย์ และระบบการชำระเงินแบบไร้เงินสดหรือ E-Wallet ที่สมบูรณ์ครบวงจร ทำให้มั่นใจได้ว่า ระบบ Sky OS จะเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทย
จุดเด่นของ “SKY OS” คือ การรวบรวมแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบนี้ให้กับพันธมิตรธุรกิจ และร้านค้าต่างๆ สามารถนำไปใช้ในการบริหารงานและบริหารการขาย เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด บนแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพที่สุด โดยไม่ต้องกังวลกับการลงทุนไล่ตามเทคโนลียีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว เนื่องจาก “SKY OS” จะเป็นผู้พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สเตทออฟดิอาร์ต 5 หลักการทำงานสำคัญคือ
1. โครงสร้างสำหรับการทำระบบลอยัลตี้และแคมเปญ พัฒนาระบบให้ผู้ประกอบการทุกประเภทธุรกิจ สามารถนำบิ๊กดาต้าไปใช้ในการเพิ่มฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อการส่งโปรโมชั่นผ่านทุกสื่อที่เข้าถึง เช่น โปรแกรมสะสมแต้ม และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ตลอดจนการสร้างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จด้วยการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ
2. เป็นโมเดลธุรกิจแบบ O2O หรือออนไลน์ ทู ออฟไลน์ (Online to Offline) ผสมผสานระหว่างธุรกิจจากออนไลน์ไปยังออฟไลน์ โดยนำคุณภาพของออฟไลน์มาช่วยยกระดับให้กับออนไลน์ ในการขายและการทำการตลาด การโอนที่รวดเร็วและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ค้าปลีก
3. เป็นระบบที่ทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ เพราะมีพื้นฐานมาจากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของอาลีบาบา คลาวด์รวมถึงมีระบบสนับสนุน ณ จุดขาย หรือ POS ซึ่งใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ประกอบการ
4. แพลตฟอร์มบิ๊กดาต้า พร้อมระบบการสร้างชุมชนผู้ใช้ เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยอาลีบาบาคลาวด์ จะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงบิ๊กดาต้าและการใช้งานได้ ผู้ค้าปลีกจะสามารถสร้างชุมชนของผู้ใช้ และเข้าถึงแต่ละกลุ่มได้แม่นยำมากขึ้น
5. สร้างสังคมไร้เงินสด ช่วยสร้างสังคมไร้เงินสด ผ่าน กระเป๋าเงินออนไลน์ คูปองและ voucher ออนไลน์ และมีระบบสะสมแต้มและแลกคะแนนสะสม ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้าปลีกได้แทบทุกรูปแบบที่ธุรกิจต้องการ
“SKY OS” จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รวมถึง โครงการหมู่บ้านคอนโดมิเนียม สำนักงาน โรงแรม อพาร์ทเมนต์ ตลาด และค้าปลีก โดยอำนวยความสะดวกในทุกด้านที่ธุรกิจต้องการ และเป็นท่าเชื่อมต่อไปยังบริการด้านบัญชี แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า การเก็บและจ่ายเงิน บริการออนดีมานด์ประกัน และอีกมากมาย บริการเหล่านี้มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพคอยรองรับโดยมีราคาที่เข้าถึงได้
ทั้งอาลีบาบา คลาวด์ และเคอี กรุ๊ป ต่างเห็นพ้องว่า แพลตฟอร์ม “SKY OS” มีโอกาสทางการตลาดสูง และมีประโยชน์อย่างมากในเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยแพลตฟอร์มนี้ถือเป็นครั้งแรกในไทยและเอเชีย และจะเริ่มเปิดให้บริการภายในปลายปีนี้ สำหรับลูกค้าและร้านค้าของศูนย์การค้า ภายใต้การบริหารของกองรีท BKER ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ ศูนย์การค้า คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC), เดอะคริสตัล เอกมัยรามอินทรา-ราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์, เดอะซีน, เพลินนารี, อมอรินี, สัมมากร เพลส ราชพฤกษ์-รามคำแหง-รังสิต และแอมพาร์คจุฬา
ในระหว่างนี้ หากมีผู้ประกอบการร้านค้าประเภทธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และเล็ก แม้ไม่ได้อยู่ในกองรีท BKER ก็สามารถเข้าร่วมในแพลตฟอร์ม “SKY OS” ได้ อีกทั้งยังมั่นใจได้เพราะพัฒนาโดยอาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งมีความเสถียร และพิสูจน์แล้วจากการทำงานให้กับธุรกิจในหลายภูมิภาค
นางศุภานวิต กล่าว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นในประเทศไทย เพื่อเสริมกลยุทธ์ในการแข่งขันทางธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพในการค้าขายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยศักยภาพของอาลีบาบาคลาวด์ ที่เป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย เทคโนโลยีนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญทางธุรกิจในการช่วยสร้างยอดขาย เพิ่มฐานลูกค้า ให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการใช้บริการคลาวด์มากขึ้นในประเทศไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต
“SKY OS เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับทั้งร้านค้าและผู้เช่า เรามั่นใจว่าด้วยเครื่องมือต่างๆ ของอาลีบาบา คลาวด์ จะตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนของเจ้าของธุรกิจได้ ด้วยประสบการณ์จากการทำงานให้กับธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกมาแล้วมากมาย
“SKY OS” มีคุณสมบัติหลักที่พิเศษในด้านการสร้างโปรแกรมลอยัลตี้ ที่ร้านค้าและศูนย์การค้าในไทยสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องลงทุนในการสร้างระบบพื้นฐานขึ้นมาใหม่ด้วยตนเอง โดยมีสิ่งที่พิเศษกว่าแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ดังนี้
1. การให้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า ซึ่งปกติร้านค้าอาจไม่สามารรถทำได้ และสามารถร่วมกับร้านค้าอื่นๆ ในการร่วมมือหรือแลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ผ่านแพลตฟอร์มนี้
2. การสะสมคะแนนของทุกร้านค้าและทุกธุรกิจ ลูกค้าทุกท่านที่สมัครเป็นสมาชิก สามารถสะสมคะแนน หรือแลกเปลี่ยนแต้มได้จากทุกร้านค้าในระบบ “สกาย โอเอส”
3. การทำโปรโมชั่นแบบแลกเปลี่ยนกันระหว่างร้านค้า หรือธุรกิจ หรือรูปแบบอื่นๆ ร้านค้าสามารถทำโปรโมชั่นการตลาดข้ามหมวดหมู่ธุรกิจได้ ทำให้ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนผ่านกิจกรรม อาทิ การทำกิจกรรมร่วม การเล่นเกมส์และการถ่ายรูป ซึ่งระบบสามารถจัดเป็นการสะสมคะแนนได้ทุกรูปแบบ
ร้านค้าภายในศูนย์การค้า สามารถใช้เพียงโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ในการยืนยันการสะสมแต้มให้ลูกค้า และยืนยันการใช้สิทธิพิเศษ ร้านค้ายังสามารถนำแพลตฟอร์มนี้ไปเป็นแพลตฟอร์มของร้านค้าได้ เพียงปรับอินเทอร์เฟซการใช้งานของ front-end หรือหน้าจอให้เป็นของร้านค้านั้น รวมถึงประยุกต์ให้เข้ากับโปรแกรมสะสมคะแนนของทางร้าน และไม่ว่าร้านค้า หรือผู้ประกอบการจะไม่ได้อยู่ภายในศูนย์การค้าในเครือ BKER ก็สามารถใช้บริการได้ ในต้นทุนที่ต่ำกว่าการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาเองอย่างมาก อีกทั้งสามารถปรับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ได้ง่าย
โดยทั่วไป หากธุรกิจต้องการพัฒนาแอปพลิเคชั่นขึ้นมาด้วยตนเอง จะมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแพลตฟอร์มราว800,000-5,000,000 บาท สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่หากใช้บริการพัฒนาแอปพลิเคชั่นของ “SKY OS” จะค่าใช้จ่ายราว 300,000-1,000,000 บาทเท่านั้น โดยขึ้นอยู่กับความยากง่าย ดังนั้นสกาย โอเอส จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างฟีเจอร์พื้นฐานที่ครบถ้วนสำหรับบริหารจัดการโปรแกรมลอยัลตี้และแคมเปญต่าง การทำการตลาดแบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยธุรกิจสามารถเลือกที่จะเป็นผู้ดูแลระบบหลังบ้านเอง หรือว่าจ้างให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น คือความเสถียร ความเร็ว การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และหน้าจอการใช้งานที่น่าใช้ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง และดูแลระบบความปลอดภัยและภาษาของโปรแกรมซึ่งอาจพบปัญหาได้หากใช้ผู้พัฒนาที่ไม่ใช้โปรแกรมภาษาล่าสุดในการพัฒนา และจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งแพลตฟอร์มสกาย โอเอส ที่พัฒนาโดยอาลีบาบา คลาวด์ จะทำให้เจ้าของธุรกิจก้าวข้ามความเสี่ยงเหล่านี้ และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์