ตลาดแรงงานระส่ำหนัก PwC คาด AI agent พลิกโฉมการจ้างงานไทยในอีก 1- 2 ปี เผยองค์กรมีโอกาสลดอัตราการจ้างงานใหม่ ขณะที่แรงงานเดิมได้รับผลกระทบ เหตุเพราะ AI agent ช่วยลดความจำเป็นในการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในงานบางประเภท และยังเพิ่มประสิทธิภาพ-ความเร็วในการนำสินค้าออกสู่ตลาดได้กว่า 50% โดยเฉพาะใน กลุ่มธุรกิจบริการทางการเงิน ค้าปลีก และโลจิสติกส์
PwC ประเทศไทย คาดการณ์ว่า AI Agent หรือ “ตัวแทน AI” จะถูกนำมาใช้งานในธุรกิจไทยมากขึ้นในปีนี้ หลังพิสูจน์แล้วว่าสามารถ เพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการนำสินค้าออกสู่ตลาดได้กว่า 50% โดยเฉพาะใน กลุ่มธุรกิจบริการทางการเงิน ค้าปลีก และโลจิสติกส์
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเทคโนโลยีนี้ อาจส่งผลกระทบต่อแรงงานเดิมและการจ้างงานใหม่ ทำให้ธุรกิจไทยต้องวางกลยุทธ์การใช้ AI อย่างรอบคอบ เพื่อรักษาสมดุลระหว่าง “กำไร ประสิทธิภาพ และความไว้วางใจจากพนักงาน”
AI Agent คืออะไร? ทำไมองค์กรต้องใส่ใจ
ดร. ภิรตา ภักดีสัตยพงศ์ หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา PwC ประเทศไทย อธิบายว่า AI Agent คือระบบอัตโนมัติที่สามารถ ประมวลผลข้อมูล ตัดสินใจ และโต้ตอบแทนมนุษย์ โดยตรง ซึ่งต่างจากเครื่องมืออัตโนมัติทั่วไปที่ต้องพึ่งพาการควบคุมจากมนุษย์

“AI Agent จะยกระดับความร่วมมือระหว่างมนุษย์และ AI ได้อย่างเหนือชั้น ช่วยปลดล็อกศักยภาพด้านนวัตกรรมและเพิ่มผลผลิตในองค์กร” — ดร. ภิรตา
ตัวอย่างเช่น ในแผนกที่มีพนักงาน 10 คน AI agent อาจทำหน้าที่แทนได้ถึง 3 คน แบบ 24 ชั่วโมงไม่มีพัก ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความเร็ว และเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินงาน
ธุรกิจไหนใช้ AI Agent ได้ก่อน?
PwC ระบุว่า อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มใช้ AI Agent ก่อน ได้แก่:
- บริการทางการเงิน – ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ตรวจสอบความเสี่ยง และแนะนำลูกค้า
- ค้าปลีก-อีคอมเมิร์ซ – วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค บริหารสต๊อก และพัฒนาการตลาดแบบเฉพาะบุคคล
- ขนส่งและโลจิสติกส์ – จัดการคลังสินค้า วางแผนเส้นทาง และติดตามสถานะจัดส่งแบบเรียลไทม์
ผลกระทบแรงงาน: เสี่ยงหรือโอกาส?
แม้ AI Agent จะช่วยลดภาระงานประจำซ้ำซาก แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อแรงงานทักษะต่ำในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งงานใหม่กำลังเกิดขึ้น เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล วิศวกรระบบ และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI
“AI ไม่ได้แค่ทดแทนคน แต่ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยลงทุนพัฒนาทักษะและขยายกิจการได้มากขึ้น” — ดร. ภิรตา
4 กลยุทธ์สำคัญ ธุรกิจไทยใช้ AI Agent อย่างยั่งยืน
เพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง “ผลกำไร การแข่งขัน และแรงงาน” ดร. ภิรตา แนะว่าองค์กรควรยึดหลัก 4 ข้อนี้:
- ตั้งเป้าหมายชัดเจน – ใช้ AI เพื่ออะไร? เพิ่มประสิทธิภาพหรือลดต้นทุน?
- ออกแบบโมเดลร่วมงานมนุษย์-AI – แบ่งบทบาทชัดเจน งานไหนให้คน งานไหนให้ AI
- พัฒนาทักษะพนักงาน – ฝึกอบรมให้ใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนเครื่องมือที่จำเป็น
- สื่อสารโปร่งใสกับพนักงาน – เปิดช่องทางสื่อสาร รับฟัง และสร้างความเข้าใจในบทบาทของ AI
AI Agent คือก้าวสำคัญของธุรกิจไทยในยุคใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเสริมความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก แต่การนำมาใช้ต้องมีกลยุทธ์รอบคอบ พร้อมเตรียมความพร้อมให้กับ “คนทำงาน” เพื่อเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาสอย่างแท้จริง
