สวทช. ผนึกกำลังพันธมิตร เปิดตัวเครือข่าย TCCA ดันเทคโนโลยี CCUS ขับเคลื่อนไทยสู่ความยั่งยืน เสริมศักยภาพไทยในเวทีโลก ลดคาร์บอน สู่เป้าหมาย Net Zero
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับพันธมิตร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ จัดตั้งภาคีเครือข่ายพันธมิตรด้านการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอนแห่งประเทศไทย (Thailand CCUS Alliance – TCCA) เพื่อผลักดันเทคโนโลยี CCUS ในประเทศ ยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยให้แข่งขันในเวทีโลก พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืน
- CCUS เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ทางรอดของอุตสาหกรรมไทย
ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายระดับโลก เทคโนโลยี CCUS (Carbon Capture, Utilization and Storage) จะเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ
การก่อตั้ง TCCA จะช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยี CCUS สู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรมไทย ลดการปล่อยคาร์บอนและต้นทุนภาษีคาร์บอน เพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมให้สอดรับกับมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ของสหภาพยุโรป และรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

- TCCA: เครือข่ายความร่วมมือระดับประเทศเพื่อ Net Zero
ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการนาโนเทค สวทช. กล่าวว่า TCCA มีบทบาทเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงองค์ความรู้ เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นโยบาย และมาตรการสนับสนุนให้เทคโนโลยี CCUS เกิดขึ้นจริงในไทย
เครือข่ายนี้ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมลดต้นทุนการลงทุน ลดระยะเวลาดำเนินการ และสามารถเข้าถึงทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ เพิ่มโอกาสให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยี CCUS ในภูมิภาค
- แผน 3 ปี เร่งพัฒนาเทคโนโลยี CCUS สู่การใช้งานจริง
ดร. ขจรศักดิ์ เฟื่องนวกิจ หัวหน้าโครงการ TCCA กล่าวว่า โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บพค. (หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและสถาบันอุดมศึกษา การวิจัย และการสร้างนวัตกรรม) ภายใต้แผนงาน 3 ปี (2567-2569)
• ปีที่ 1: รวมตัวภาคีเครือข่ายและลงนามความร่วมมือ
• ปีที่ 2: วางกลไกการทำงาน เชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
• ปีที่ 3: พัฒนาโครงการระดับชาติและผลักดันโครงการนำร่อง (Demonstration Project)

เป้าหมายหลักคือการผลักดัน CCUS ให้เกิดขึ้นจริง สร้างแรงจูงใจด้านนโยบายและการลงทุน พร้อมพัฒนาบุคลากรให้รองรับอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นหนึ่งใน New S-Curve ของไทย
- CCUS กับอนาคตพลังงานสะอาดของไทย
ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ประเทศไทยเตรียมส่งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกฉบับใหม่ (NDC 3.0) ในปี 2568 โดยกำหนดให้เทคโนโลยี CCUS มีบทบาทสำคัญในแผนพลังงานของประเทศ ภายในปี 2040 จะต้องมีการใช้ CCUS/BECCS (Bioenergy with Carbon Capture and Storage) อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ CCUS Roadmap ของ สกสว. (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) ระบุว่า เทคโนโลยี CCUS จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกของไทยได้ถึง 50-150 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2050 ทำให้ CCUS เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ไทยก้าวสู่ Carbon Neutrality ได้เร็วขึ้น
- อุตสาหกรรมไทยต้องปรับตัว รับมือกฎคาร์บอนโลก
นาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า CCUS เป็นโอกาสสำคัญของภาคอุตสาหกรรม เพราะช่วยลดต้นทุนจากภาษีคาร์บอนและค่าปรับจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ยังช่วยให้สินค้าไทยผ่านมาตรฐาน CBAM ของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของประเทศ
“CCUS จะไม่เพียงช่วยลดคาร์บอน แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในตลาดโลก และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ”
- ภาควิชาการพร้อมหนุน พัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากร
รศ.ดร. สุพฤทธิ์ ตั้งพฤทธิ์กุล หัวหน้าศูนย์วิจัยการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีบทบาทสำคัญในด้านการวิจัยและพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรม CCUS โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันเทคโนโลยีนี้ให้เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งสร้างหลักสูตร Re-skill และ Up-skill ให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม
- CCUS เทคโนโลยีเปลี่ยนเกม นำไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
ศาสตราจารย์ ดร. ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. ทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือผ่าน TCCA จะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี CCUS ในไทย ช่วยให้ประเทศเข้าสู่ยุคพลังงานสะอาด ลดก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม
เทคโนโลยี CCUS ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นก้าวสำคัญของอนาคตไทยสู่ความยั่งยืน