COTTO สร้างปรากฎการณ์ “รักษ์โลกตั้งแต่ดีไซน์ จนทำลาย” เปิดนวัตกรรมห้องน้ำ ที่ไม่ได้เป็นแค่ห้องน้ำ แต่เป็นพื้นที่แห่งความสุขทุกมิติ
จากอากาศร้อนระอุ ที่ทุกคนสัมผัสได้ ทำให้คนเริ่มตระหนักว่า “ภาวะโลกร้อน” ภาคอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวกันขนานใหญ่ การออกแบบงานก่อสร้างก็หนีไม่พ้น ที่จะต้องนำคอนเซปต์ของการรักษ์โลกเข้ามาใช้ในกระบวนการออกแบบและการก่อสร้างด้วย
“ห้องน้ำ” ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยประหยัดพลังงานได้ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบไปจนถึงการทำลาย รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ สุขภัณฑ์ ตลอดจนอุปกรณ์ใด ๆ ที่จะมีส่วนช่วยทำให้ห้องน้ำ กลายเป็นห้องแห่งความสุขในทุกมิติของสมาชิกทุกคนในบ้านหรืออาคารหลังนั้น และยังเป็นพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืนไปได้ในเวลาเดียวกัน คอตโต้ที่ให้ความสำคัญกับการลดการใช้น้ำเพื่อสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน
ในงานสถาปนิก 2023 ที่ผ่านมา ได้มีการพูดถึงเรื่ององค์ประกอบภายในบ้านที่รักษืโลก ในเวทีเสวนา “Green Bathroom for Sustainable Living” เพื่อการออกแบบที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ด้วยมุมมองขององค์ประกอบตกแต่งภายในบ้านที่รักษ์โลกตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงทำลาย โดยแนวคิด COTTO Thinking Built to Last เป็นกระบวนการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนดีไซน์จนทำลาย เพื่อร่วมกันสร้างความเป็นอยู่และสุขภาวะที่ดีของผู้คน ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และสามารถหยิบยกเป็นแนวทางในการออกแบบสร้างสรรค์อาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
“ธนนิตย์ รัตนเนนย์” ที่ปรึกษาสำนักงานกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด กล่าวว่า เมื่อต้องสร้างพื้นที่แห่งความสุขให้ทุกคน ต้องมีแนวคิดว่าจะทำยังไงให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญ โลกอยู่ได้เราอยู่ได้ เพราะปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเรื่องโลกร้อนเข้ามาใกล้ตัวเราทุกวัน
คอตโต้อยากให้คนในวงการได้มีจุดคิดตั้งแต่เริ่มจากการออกแบบสินค้าจนถึงการทิ้งของออกไป เพื่อสามารถทำให้สิ่งแวดล้อมยังคงอยู่ได้อย่างยั่งยืนไปถึงรุ่นต่อไปที่ต้องใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ ซึ่งคอตโต้เองไม่ได้เพิ่งเริ่มทำ แต่ทำมา 30 กว่าปีแล้ว สินค้าที่ผลิตออกมาเป็น Green Process แล้วเป็น recycle material ชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบเราก็เลือกจากโรงงานที่ได้ ISO ซึ่งเป็นแนวทางที่คอตโต้ทำมาโดยตลอด ห้องน้ำหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาโชว์ในวันนี้ ก็เป็น Green Process ทั้งหมด
“จูน เซกิโน่” สถาปนิกแนวหน้าของไทย เจ้าของผลงานออกแบบอาคารหลากหลายประเภทที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย เจ้าของวลี “คิดใหญ่ทำยาก” กับความเชื่อเต็มร้อยที่ว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยทำกันมานาน ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าคือเรื่องเล็ก ๆ ใกล้ ๆ ตัวที่หากทำซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทำบ่อย ๆ จนเกิดความเคยชินก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในที่สุด แบบนี้จะเห็นผลดีกว่ามุ่งเน้นไปกู้โลกที่เป็นเรื่องใหญ่และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ควรเริ่มทำที่บ้านให้ได้ก่อน
เทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้มองภาพเห็นได้ชัดกว่าในอดีต ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วทรัพยากรสิ่งแวดล้อมที่ย่ำแย่ของโลกเราเกิดขึ้นมานานมากแล้ว เป็นเพราะการกระหน่ำใช้ทรัพยากรทุกอย่างมากที่สุดตั้งแต่เกิดมีโลกมา แต่ตอนนี้ก็มีแนวโน้มลดลงเพราะไม่เหลืออะไรให้ทำลายแล้ว จะเห็นว่าบางอย่างหายไปเลยก็มี
สำหรับการออกแบบที่ยั่งยืนนั้น มองว่าไม่ใช่เทรนด์แต่เป็นเรื่องของมาตรฐาน อย่างห้องน้ำที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องมี แต่ห้องน้ำในปัจจุบันเป็นมากกว่าห้องน้ำ เพราะคนใช้เวลาในห้องน้ำนานมากขึ้น มีหลายกิจกรรมที่ทำในห้องน้ำ ทำให้การออกแบบต้องคำนึงถึงในหลาย ๆ มิติ หรือแม้แต่ขั้นตอนการเตรียมวัสดุเพื่อการก่อสร้าง ที่หลายคนมักจะชอบเผื่อวัสดุไว้ในปริมาณมาก ๆ หากเราเปลี่ยนมุมมองเรื่องนี้ด้วยการเตรียมวัสดุให้พอดีหรือลดปริมาณการเผื่อให้น้อยลง ก็จะเป็นอีกทางหนึ่งในการช่วยลดการใช้ทรัพยากรลงได้
ดร.ภาณุพันธ์ ผาพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักเกณฑ์การออกแบบเพื่อความเป็นผู้นําทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม หรือ LEED & WELL จาก SCG ผู้ที่เชื่อมั่นว่าทุกการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นได้จากการเปลี่ยนมุมมอง เพราะเรามีโลกใบเดียวไม่ได้มีหลายใบ จะย้อนอดีตไปทำดีกับธรรมชาติก็ไม่ได้แล้ว ที่ทำได้ในวันนี้คือการตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดตามมาก่อนจะลงมือทำอะไรลงไป ต้องคำนึงในทุกวิถีทางที่จะทำให้ลดการเกิดภาวะต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในส่วนของห้องน้ำ ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นแนวคิดแบบ green bathroom แต่อยากให้คำนึงถึงทั้งเรื่อง green และ well being คือมีทั้งความกรีนและเป็นมิตรต่อสุขภาพของคนใช้งาน อย่างมาตรฐานอาคารปัจจุบันคือ green building + green bathroom และเรื่อง well being จะดูเรื่องการออกแบบเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีด้วย เช่น สุขภัณฑ์สมาร์ทที่ประหยัดน้ำและลดคราบสะสมเชื้อโรคได้ ก๊อกน้ำที่ลดการสัมผัสใช้น้ำน้อยแต่ยังมีสายน้ำที่เต็มอิ่มนุ่มนวล กระเบื้องทำยังไงให้พื้นลื่นน้อยลง ยุค pm 2.5 ก็มีกระเบื้องที่ดูดกลิ่น ดูดฝุ่น ให้ในห้องน้ำมีความสดชื่นมากขึ้น
“ธนา รัตนเกษตรสิน” ผู้เชี่ยวชาญการผลิตเพื่อการยั่งยืนจากคอตโต้ มีมุมมองจากกระบวนการผลิต ที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดการ waste จากกระบวนการผลิตไปสู่การสร้างคุณค่าให้ชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งคอตโต้ให้ความสำคัญกับการผลิตมานานกว่า 30 ปี และลงมือทำให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง โดยมองตั้งแต่ต้นว่าควรเลือกใช้อะไรเพื่อลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการผลิตที่ไม่เบียดเบียนแหล่งน้ำของชุมชนด้วยการบำบัดน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้งานใหม่ หรือแนวทางการบริหารจัดการ waste เพื่อไม่ให้มีหลุดรอดไปในพื้นที่ชุมชน แต่กลับกลายเป็นแหล่งการสร้างอาชีพให้กับชุมชนในเวลาต่อมา
ที่ผ่านมา COTTO ยังได้พัฒนาสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำออกมาให้ประชาชนได้เลือกใช้ และพัฒนาด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทำให้สามารถประหยัดน้ำได้เพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด ทำให้ช่วยประหยัดน้ำบนโลกได้จาก 1,000 ล้านลิตร มาถึงปัจจุบัน สามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 20,000 ล้านลิตรตลอดการใช้งาน และเมื่อประหยัดน้ำได้ ก็จะช่วยประหยัดพลังงานต่าง ๆ รวมถึงช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ให้โลกตามมาด้วย
เพื่อให้มีพื้นที่แห่งความสุข เราก็ต้องไม่เบียดเบียนโลกใบนี้ด้วย เพียงแค่เปลี่ยนมุมมอง และเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่ทำบ่อย ๆ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับมุมมองจากทุกภาคส่วนที่หันมาร่วมกันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น คอตโต้ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตัวเลือกที่คำนึงถึงขั้นตอนตั้งแต่ดีไซน์ไปจนถึงขั้นตอนการทำลาย เพื่อช่วยกันทำให้โลกใบนี้ของเรา กลับมาเป็นโลกที่น่าอยู่อีกครั้งหนึ่ง