Magna International Inc. ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของโลก ประกาศความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชนในประเทศไทย เดินหน้าผลิตสินค้าอย่างยั่งยืนตามแนวทาง ESG พร้อมต่อยอดนวัตกรรม ขยายฐานผลิตในไทย
- ขยายฐานการผลิตในไทย ติดตั้งโซลาร์รูฟ ลดคาร์บอน
เจฟ ฮันท์ ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mechatronics, Mirrors & Lighting ของ Magna กล่าวว่า โรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง ซึ่งเปิดดำเนินการในปี 2566 ผลิตชิ้นส่วนสำคัญ เช่น ไฟป้ายทะเบียน, ไฟเลี้ยว, กระจกมองข้าง, แผงชาร์จ และตัวกระตุ้นประตู เพื่อป้อนตลาดในประเทศและส่งออกทั่วโลก
ไฮไลต์ของโรงงานคือการติดตั้ง โซลาร์รูฟ เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ตอบโจทย์กลยุทธ์ ESG (Environmental, Social, and Governance) และสะท้อนความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความยั่งยืนของประเทศไทย

- ไทย ศูนย์กลางการผลิตหลักในอาเซียน
Magna เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2552 โดยผลิตชิ้นส่วนตัวถังและแชสซีให้กับแบรนด์ยานยนต์ระดับโลก ปัจจุบันมีพนักงานเกือบ 600 คน และได้ขยายการผลิตไปสู่เบาะนั่งรถยนต์แบบครบชุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาค
ด้วยความตั้งใจในการส่งมอบโซลูชันระดับโลก Magna ยึดหลักคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน

- ผู้บริหารระดับโลกลงพื้นที่ ย้ำความสำคัญของไทย
หลังจากพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ในอินเดียเมื่อเดือนมกราคม 2568 ทีมผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่ม Mechatronics, Mirrors & Lighting ได้เดินทางเยือนไทย เพื่อพบปะพนักงานและพันธมิตรในประเทศ พร้อมหารือแนวทางการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน
การมาเยือนยังรวมถึงการพบปะกับ นางสาวปิง คิตนีกอน เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแคนาดากับประเทศไทย ให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างประเทศ

- ลงทุนเพื่ออนาคต ยกระดับบุคลากรและเทคโนโลยี
ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์อาเซียน บริษัทจึงลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ส่งเสริมนวัตกรรม และพัฒนาศักยภาพบุคลากรในประเทศ พร้อมขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นผู้ประกอบการและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Magna ยังยืนยันเจตนารมณ์ในการสร้าง โซลูชันด้านการขนส่งที่ล้ำสมัย พร้อมสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า พนักงาน และชุมชนอย่างยั่งยืน