NRF ประกาศบิ๊กมูฟ ลุย Plant base – อีคอมเมิร์ซโลก

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:3 Minute, 38 Second

NRF ชูกลยุทธ์มุ่งหน้าสู่การเป็นบริษัทคลีนฟู้ดเทคระดับโลก แก้ปัญหาภาวะโลกรวน ลดการสร้างก๊าซคาร์บอนจากกระบวนการผลิตอาหาร และขับเคลื่อนให้องค์กรปล่อยคาร์บอนเป็นลบ เผยแผนปี 2022 ทุ่มงบกว่า 2 พันล้าน จัดหนักธุรกิจแพลนท์เบส และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยถึงก้าวสำคัญขององค์กรสู่การเป็น “บริษัทคลีนฟู้ดเทคระดับโลก” มุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ไขปัญหาภาวะโลกรวน (Climate Change) ลดการสร้าง และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตอาหาร และขับเคลื่อนองค์กรสู่สถานะ การปล่อยคาร์บอนเป็นลบ โดยกลยุทธ์นี้มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตอกย้ำถึงจุดยืนของบริษัทที่มุ่งสร้างผลกระทบทางบวกต่อสิ่งแวดล้อม และใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้การปล่อยมลพิษมีค่าเท่ากับศูนย์ภายในปี 2050 ในปีนี้ NRF วางแผนงานสำคัญทั้งโครงการ ปล่อยคาร์บอนเป็นลบทั้งในประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา รวมถึงการลงทุนในบริษัทที่ผลิตเทคโนโลยี และการเข้าถือสิทธิบัตรทางเทคโนโลยี ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท

“ภายในปี 2050 Negative emission จะใหญ่กว่าอุตสาหกรรมที่เพิ่มคาร์บอน มันเป็นโอกาสมหาศาลในตลาด การแก้ไขปัญหา เราต้องลงทุนในไฟฟ้าพลังงานสะอาด และลงทุนการเกษตร เพราะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ปล่อยคาร์บอนเยอะถึง 30-40% ส่วน NRF อาหาร Plant Based ถือเป็นเครื่องมือที่ดีในการลดปัญหา เราทำคลีนฟู้ดเทคคัมปานี…เรามีซัพพลายเชน และใช้เทคโนโลยีลดคาร์บอน ฝังลงดิน ลดมากกว่าปล่อย ในลักษณะถาวร และเราผลิตอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้บล็อกเชนในการทำตลาด ขับเคลื่อนธุรกิจ ทำธุรกิจให้โปร่งใส” นายแดนกล่าว

ภาวะโลกรวนส่งผลกระทบกับการดำรงชีวิตของทุกคนอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เห็นได้ว่าในแต่ละปีนั้น เราจะเห็นปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ได้กลายเป็นตัวการอันดับต้นๆ ของอันตรายต่อ สุขภาพของคนไทย โดยที่ตัวการใหญ่ของปัญหานี้คือ อุตสาหกรรมการผลิตอาหารที่ปล่อย มลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อมมากถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมด ในประเทศไทยเองนั้น ต้องจัดการกับปัญหาขยะมูลฝอย จากการเกษตรมากถึง 17 ล้านตันทุกๆ ปี ดังนั้น NRF จึงร่วมมือกันในทุกภาคส่วนขององค์กรและวางแผน การดำเนินงานของปี 2022 นี้ เพื่อให้บรรลุความสำเร็จในการกำจัดคาร์บอนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลจนเหลือศูนย์ ซึ่งรวมไปถึงการตั้งเป้าผลการดำเนินงานในแต่ละระยะ เพื่อผลักดันให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้มากที่สุด และรวดเร็วที่สุด

ห่วงโซ่คุณค่าของการกำจัดคาร์บอนจนเหลือศูนย์ของ NRF นั้นเริ่มจาก การนำเอาขยะมูลฝอยในภาคการเกษตร หรือมวลชีวภาพ (Biomass) มาผลิตเป็นไบโอออยล์ และถ่านชีวภาพ หลังจากนั้น NRF ก็จะนำถ่านชีวภาพเหล่านั้นเข้าไปใช้ในห่วงโซ่อุปทาน และกระบวนการผลิต เพื่อลดคาร์บอนออฟเซ็ต และเพิ่มคาร์บอนเครดิต เหล่านี้ถือเป็นกระบวนการต้นน้ำของการกำจัดคอร์บอน

นอกจากนั้น NRF ยังร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรเพื่อผลักดันให้ปลูกพืชผล และผลิตโปรตีนในกระบวน การแบบยั่งยืน โดยเครือข่ายโรงงานในแต่ละภูมิภาคนั้น ก็สามารถกระจายสินค้าได้แบบปลอดภาษี ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์สามารถเข้าถึงสินค้าที่ผลิตโดยแบรนด์ในกลุ่ม NRF และผลิตจากโรงงานของ NRF ได้อย่างทั่วถึง ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ

“เราไม่เพียงแค่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้โดยเร็วเท่านั้น แต่เรายังสร้างทีมที่เฟ้นเอา บุคลากรคุณภาพจากทั่วโลก อันประกอบไปด้วย วิศวกรสิ่งแวดล้อม นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญ ด้านตลาดคาร์บอนมาคอยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบบนเส้นทางของเราในครั้งนี้ ด้วยทีมที่แข็งแกร่งนี้ทำให้เรายังครองความเป็นผู้นำของตลาดที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสร้างคุณค่าอย่างมหาศาลให้กับทั้ง NRF บรรดาพันธมิตรของเรา รวมไปถึงผู้บริโภคด้วย” นายแดน กล่าวเสริม

ในปี 2022 นี้ ทาง NRF วางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตอาหารที่ปล่อยมลพิษเป็นลบทั้งในประเทศไทย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้รายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืชนั้นเพิ่มขึ้น 20% สร้างกระแสเงินหมุนเวียนขององค์กรที่มากขึ้น

“การก้าวสู่การเป็นบริษัทคลีนฟู้ดเทคนั้น ทำให้เราต้องลงมือทำในทันที เราภูมิใจกับความสำเร็จที่ผ่านมา และยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการปกป้องโลกของเรา เราต้องเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ เพื่อที่เราจะบรรลุความมุ่งมั่นนี้ได้ภายในปี 2050” นายแดนกล่าว

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

ไปจ้า…"ไทยเวียตเจ็ท” ชวนเที่ยวสิงคโปร์ ไม่ต้องกักตัว

เที่ยวสิงคโปร์ไม่ต้องกักตัวกับ “ไทยเวียตเจ็ท” บินตรงจากสุวรรณภูมิและภูเก็ตด้วยเที่ยวบิน VTL จากสุวรรณภูมิเริ่ม 28 เม.ย.2565 ส่วนภูเก็ต-สิงคโปร์ เริ่ม 2 มิ.ย.2565

You May Like