“PIROM Specialty Bar” ปักหมุดเปิดแฟลกชิปแห่งแรก “เซ็นทรัลเวิลด์” พร้อมผลักดันกาแฟสัญชาติไทย สู่วงการกาแฟระดับโลก มอบประสบการณ์เครื่องดื่ม Specialty โดยบาริสต้าดีกรีแชมป์เอสเย็นระดับโลก!
ศิวลี บูรณสงคราม กรรมการผู้จัดการและที่ปรึกษาด้านการตลาด บริษัท พีบี กรูพ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า PIROM Café เขาใหญ่ เปิดแฟลกชิปแห่งแรกในชื่อ “PIROM Specialty Bar” (ภิรมย์ สเปเชียลตี้ บาร์) ปักหมุดใจกลางศูนย์การค้ากลางเมือง เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 Eden Zone เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกใจกลาง CBD พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ในคอนเซ็ปต์ใหม่หมดจด กับสเปเชียลตี้ บาร์ ที่คว้าบาริสต้า ดีกรีแชมป์เอสเย็นระดับโลก มาร่วมรังสรรค์เมนูใหม่
แฟลกชิปแห่งนี้ มาในดีไซน์เท่ขรึมด้วยสีดำที่สะท้อนความมีสไตล์ไม่เหมือนใคร ตัดสลับกับดีไซน์จากไม้ที่โทนดาวน์ความขรึมให้มีความอบอุ่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังใช้ดีไซน์ของความกลมมน มาเพื่อให้ร้านมีความเฟรนด์ลี่เข้าถึงง่ายได้มากขึ้น เผยหมุดหมายอันสำคัญ ในการยกระดับเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ไทย ดันไปไกลสู่สากลอย่างยั่งยืน
จุดเริ่มต้นของ PIROM Specialty Bar เกิดจากความตั้งใจของ ปิยะ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริษัทฯ ที่มองเห็นความสำคัญและต้องการยกระดับคุณภาพของเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ไทย ให้ไปไกลสู่สากลได้อย่างยั่งยืน นั่นคือเป้าประสงค์หลักที่อยากทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยการสร้างโอกาสสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรไทย และผู้ประกอบการไทย ตั้งแต่ต้นน้ำ โดยได้มีการส่งเสริมให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าและพัฒนาสายพันธุ์ร่วมกับเกษตรกรไทยในพื้นที่จังหวัดน่าน
รวมถึงยกระดับกระบวนการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ โดยมีการคัดเมล็ด (โดยปกติแล้วเมล็ดกาแฟโรบัสต้าจะไม่มีการคัดแยกเมล็ด) และนำไปผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ทำให้ได้กาแฟที่มีคุณภาพสูง คงแก่นแท้ของรสชาติที่ดีในแบบฉบับของโรบัสต้าและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ต้องการลบภาพจำเดิมของเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่มักจะมีกลิ่นหืน รสชาติเข้ม เป็นโรบัสต้าที่มีรสชาติดีอย่างเหลือเชื่อ และคุณภาพรางวัลการันตีจนได้เป็นโรบัสต้า เกรดซูเปอร์พรีเมียม ที่เรียกว่า Fine Robusta (ไฟน์ โรบัสต้า)
นอกเหนือไปกว่าที่เกษตรกรไทยในพื้นที่จังหวัดต่างๆ มีอาชีพปลูกเมล็ดกาแฟแล้ว ความคาดหวังในการสร้าง PIROM Specialty Bar แห่งนี้ ยังคาดหวังในการช่วยยกระดับกาแฟไทยให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้น จากสถานที่ที่ตั้ง เราไม่ได้คาดหวังแค่กลุ่มคนรักกาแฟมาร่วมดื่มและเข้าถึงได้ง่ายเท่านั้น แต่อีกหนึ่งกลยุทธ์คือ อยากให้กลุ่มนักท่องเที่ยวมีภาพจำเกี่ยวกับกาแฟไทยที่ดี และเกิดการบอกต่อในอนาคต เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการผลักดันวงการกาแฟไทยให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น
สำหรับที่ PIROM Specialty Bar แห่งนี้ มีบาริสต้าดีกรีแชมป์เอสเย็นระดับโลก กัญญาพัชญ์ จิรพัทธ์ปกรสิน (บาริสต้าหมิว) มาร่วมรังสรรค์เมนูที่เป็น A Must ที่อยากให้ทุกคนได้ลอง คือ Thai Style (Es-Yen) (ราคา 150 บาท) เมนูไฮไลต์ของร้าน ที่เต็มไปด้วยรางวัลการันตีระดับโลก คว้ารางวัล World ESYEN Champion จากการแข่งขันเอสเย็นทั้งหมด 36 แก้ว โดยจุดเด่นของ Thai Style (Es-Yen) ของ PIROM Specialty Bar นั้นอยู่ที่ นมสูตรพิเศษที่มีเพียง 1 เดียวในโลก ใน 1 จิบจะได้รสชาติที่หลากหลาย โดยในจิบแรกจะรู้สึก หวานกำลังดี หอมมัน รสนมนัวๆ ในปาก ต่อมาในช่วงกลาง จะให้ความรู้สึกเหมือนดื่มคาราเมล และ After Taste สุดท้ายจะหอมรสชาติอัลมอนด์คั่ว ให้ความรู้สึกนุ่มลึก ลงตัว แถมยังได้รสความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มีที่ไหนแน่นอน
อีกหนึ่งเมนูที่แนะนำ คือ เมนู Americano Passion Fruit (ราคา 150 บาท) เครื่องดื่มที่เติมความสดชื่นจาก 2 เลเยอร์ จิบแรกคือความเข้มข้นจากกาแฟอเมริกาโน่ ที่ใช้เมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน และเซอร์ไพร์สตามมาด้วยรสเปรี้ยวอมหวานจากน้ำเสาวรส ที่สดใหม่จากไร่พีบีวัลเลย์ เขาใหญ่ ให้ความรู้สึกรีเฟรชชิ่ง มอบทุกความสดชื่นให้ทุกจิบ เหมาะสำหรับเป็นเมนูเริ่มต้นวันใหม่
เมนูที่คอกาแฟต้องลอง ได้แก่ Puffy on the cloud (ราคา 180 บาท) แรงบันดาลใจจากบรรยากาศในวันฝนตก พร้อมมวลเมฆบนท้องฟ้า ได้รับการนำมาบรรจุและสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติด้วยกาแฟในรูปแบบช็อตรสเข้มข้น ที่ค่อยๆ ไหลผ่านสายไหมก้อนเมฆรสหวาน เบื้องล่างคือเครื่องดื่มนมสูตรพิเศษที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เติมเต็มรสชาติมากยิ่งขึ้นด้วยกลิ่นรมควันจากไซรัปที่ได้แรงบันดาลใจมาจากถังไม้โอ๊กบ่มไวน์มอบความรู้สึกของ after taste ที่ยาวนานแบบไม่รู้ลืม
สำหรับใครที่ไม่ใช่สายกาแฟ ทาง PIROM Specialty Bar ก็มีเมนูแนะนำที่อยากให้ทุกคนได้ลอง คือ Silver Lining (ราคา 200 บาท) เครื่องดื่มที่พร้อมนำเสนอความรู้สึกลักชัวรี่ผ่านรสพิเศษที่คัดสรรมาโดยบาริสต้าของเรา น้ำองุ่นสายพันธุ์ชีราสจากไร่พีบีวัลเลย์ ให้ความรู้สึกพรีเมียม และเพิ่มเลเยอร์ด้วยกลิ่นหอมกุหลาบและลิ้นจี่ที่เติมความหอม พร้อมความสดชื่น ปิดท้ายด้วยรสซ่านิดๆ ด้วยสปาร์กกิ้ง แต่งเติมด้วยผลไม้อย่างเคพกูสเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี่ ที่ให้รสชาติสมบูรณ์แบบและลงตัวในแก้วเดียว
สำหรับเมนูอื่นๆ ที่คิดว่าต้องเวียนชิมให้ครบ อาทิ Gentle Smokiness (ราคา 220 บาท) บุคลิกที่ชวนซับซ้อนและโดดเด่นด้วยลูกเล่นของการเบลนด์ส่วนผสมที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน ให้รสชาติทั้งรสเปรี้ยวหวานอย่างกระเจี๊ยบ ส้ม สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี่ ผสมเฮิร์ปจากชะเอมเทศ และตัดรสจากชาดำ สร้างความเป็นไปได้ใหม่ที่สุดลงตัวสำหรับเมนูชา เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการความสดชื่นและรสสัมผัสเบาๆ จากสูตรการเบลนด์เฉพาะ ก่อนปิดท้ายด้วยการรมควันแอปเปิลที่ยิ่งชวนให้หลงใหล สตอรี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน แวะเข้ามาสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟในรูปแบบใหม่ ได้จากบาริสต้าที่ PIROM Specialty Bar ที่บาริสต้าสามารถแนะนำได้ทั้งเครื่องดื่ม Coffee หรือ Non-coffee และพร้อมที่จะส่งมอบทุกความใส่ใจในรายละเอียด ทุกแก้ว ชงทุกแก้วด้วยความใส่ใจ เพื่อนำเสนอคุณภาพที่ดีที่สุดให้ลูกค้าทุกคน