เอส โฮลเทล แอนด์ รีสอร์ท ปักหมุดความยั่งยืน ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 5% ต่อปี ติดตั้งแผงโซล่าเซล อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล อัดกิจกรรม-อาหารพื้นถิ่นเพียบ พร้อมทุ่มอีก 1.5 หมื่นล้าน ลงทุน 50 โรงแรมใหม่ใน 5 ปี
ไมเคิล มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ทำรายได้รวมทะลุ 10,000 ล้านบาท และรักษาตำแหน่งผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของไทย
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เตรียมเดินหน้าต่อด้วย 4 กลยุทธ์หลัก พร่อมผนึกนโยบายด้านความยัางยืน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อผลักดันรายได้รวมสู่เป้าหมาย 12,000 ล้านบาท ในปี 2567
การดำเนินธุรกิจของเอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคม ในปี 2567 บริษัทฯ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 5% ต่อปี ตามแผนของประเทศไทยในการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 40% โดยจะมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในกลุ่มโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ รวมถึง โซ/ มัลดีฟส์ ที่จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 20%
ขณะเดียวกันยังดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุ์สิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ โดยที่ผ่านมาพบสิ่งมีชีวิต 21 สายพันธุ์ในกลุ่มสีแดงขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) อยู่บ่อยครั้งในพื้นที่โครงการ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) กับกระทรวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ของรัฐบาลมัลดีฟส์ เพื่อสนับสนุนพื้นที่อนุรักษ์นอกพื้นที่คุ้มครอง (Other Effective Area-Based Conservation Measures: OECMs) ภายในโครงการครอสโร้ดส์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 3.1 ล้านตารางเมตร หรือกว่า 31% ของพื้นที่โครงการ โดยพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรอินเดีย
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เดินหน้ายกระดับประสบการณ์การเข้าพัก ผ่านการนำเสนอโครงการด้านความยั่งยืนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล เกาะพีพี และมัลดีฟส์ ที่ตั้งเป้าต้อนรับผู้เข้าชมกว่า 50,000 คนในปี 2567
รวมไปถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมของชุมชน ไปจนถึงการใช้ผลผลิตและวัตถุดิบที่ปลูกและจัดหาจากท้องถิ่น เพื่อนำเสนอเมนูจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร (Farm to Table) และอาหารทะเลสดใหม่แก่แขกที่เข้าพักอีกด้วย
ความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท สามารถเดินตามแผนในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) และเพิ่มพื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพ 30% ภายในปี 2573 ตามเป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวของกลุ่มบริษัทสิงห์ เอสเตท
ส่วน 4 กลยุทธ์หลัก ของเอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ประกอบด้วย
- ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ มุ่งสร้างการเติบโต (Drive efficiency, ignite growth):
บริษัทฯ มีแผนที่จะยกระดับศักยภาพในการสร้างอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้น 3 – 5% ผ่านปัจจัยการเติบโต 3 ด้าน ได้แก่ อัตราเฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPAR) ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเติบโต 25% จากยอดการจองห้องพักในมัลดีฟส์ในไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ดี และค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 20% จากการปรับปรุงห้องพักของโรงแรมในฟิจิและไทย และการเปิดตัวของโซ/ มัลดีฟส์
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อื่นนอกเหนือจากการเข้าพัก (Non-room Revenue) ที่ 15% โดยบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการนำเสนอ ประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของแบรนด์ พร้อมแผนเปิดตัวบีชคลับในทุกรีสอร์ทในเครือแบรนด์ทราย (SAii)
รวมทั้งให้ความสำคัญกับตลาดไมซ์ (MICE) ผ่านบริการด้านอีเวนต์ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานและการประชุมธุรกิจ
ในส่วนของกระบวนการดำเนินธุรกิจ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จะยกระดับระบบการจัดซื้อแบบรวมศูนย์ และควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยไม่กระทบต่อคุณภาพของบริการ ซึ่งคาดว่า จะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น (Gross Profit) เพิ่มขึ้น 20%
- ปลดล็อคศักยภาพของพอร์ตโฟลิโอ (Unleash the power of the portfolio):
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จะสานต่อความสำเร็จจากปี 2566 ยกระดับมูลค่าของสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง พร้อมตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนภายใน (Internal Return Rate: IRR) ไว้ที่ 12 – 15% โดยจะต่อยอดแผนการปรับปรุงโรงแรมในประเทศไทยที่ ทราย ลากูน่า ภูเก็ต และ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ สำหรับตลาดสหราชอาณาจักร บริษัทฯ จะดำเนินกลยุทธ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่และรีแบรนด์โรงแรมในพื้นที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยว อาทิ แมนเชสเตอร์ เอดินเบอระ เลสเตอร์ และกลาสโกว์
- เติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด (Scale Without Limits):
เพื่อตอบรับการเติบโตของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ บริษัทฯ มีแผนที่จะยกระดับแบรนด์ (Brand Enhancement) โดยสร้างการจดจำแบรนด์ ทราย (SAii) ในฐานะจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวแบบลักซ์ชัวรี่อย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวว่าการเข้าพักจะสร้างผลกระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุด นำเสนอเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่น่าตื่นตาตื่นใจ และกิจกรรมด้านสุขภาพที่โดดเด่น พร้อมผนึกพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ มอบผลิตภัณฑ์และบริการ อาทิ แพ็คเกจพิเศษ และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนโรงแรม ในพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดจำนวนไม่น้อยกว่า 50 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะอยู่ภายใต้โมเดลธุรกิจแบบ Asset-Light อาทิ สัญญาบริหารโรงแรม (Hotel Management Agreement: HMA) หรือภายใต้การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ และการร่วมลงทุน (Joint Venture) อันจะนำไปสู่การเพิ่มขนาดพอร์ตโฟลิโอและรายได้รวมของบริษัทฯ เป็น 2 เท่าตัว
บริษัทฯ มีแผนจะยกระดับแบรนด์ ทราย (SAii) ให้เป็นที่จดจำในระดับสากล โดยผ่านการดำเนินงานในหลากหลายด้าน เช่น กระบวนการทำงานที่เชื่อมกันในแต่ละพื้นที่อย่างไร้รอยต่อ การลงทุนในนวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น (personalised experiences) แผนการตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั่วโลก และกลยุทธ์ด้านดิจิทัลที่โดดเด่น พร้อมด้วยการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ที่มีประสิทธิภาพ
- ปักหมุดรุกตลาดใหม่ (Beyond Borders):
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้จัดสรรงบในการลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาทเพื่อซื้อและควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition) ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยยังคงพุ่งเป้าไปที่จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวในภาคพื้นทวีปยุโรปในแถบเมดิเตอร์เรเนียน สหราชอาณาจักร แถบมหาสมุทรอินเดีย เอเชียแปซิฟิค และฟิจิ เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่พอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ และสร้างความเติบโตที่ยั่งยืนในด้านรายได้ รวมถึงลดความผันผวนทางฤดูกาล (Seasonal Effect) ของโรงแรมในเครือ