SafeInternetForKid.com ลดความเสี่ยงลูกบนโลกออนไลน์

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:5 Minute, 24 Second

ดีแทค ผสานเทเลนอร์ กรุ๊ป จับมือ DEPA สร้างแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ SafeInternetForKid.com ช่วยเยาวชนรับมือกับความเสี่ยงบนโลกออนไลน์

คุณคิดว่าข้อมูลบนออนไลน์ในปัจจุบันน่าเชื่อถือได้มากแค่ไหน? คุณยินยอมให้ผู้อื่นโพสต์ภาพลูกของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่? คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างการพูดหยอกล้อและการพูดทำร้ายจิตใจหรือไม่? บุคคลที่สามารถพึ่งพาได้เมื่อลูกคุณมีปัญหาไม่สบายใจคือใคร? การใช้ออนไลน์สามารถเป็นทั้งโอกาสในการหาความรู้และสืบค้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถนำภัยอันตรายมาให้เช่นกัน ดีแทคจึงร่วมมือกับเทเลนอร์ กรุ๊ป และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) นำเสนอแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ล่าสุด SafeInternetForKid.com ที่ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูดูแลบุตรหลานให้พ้นภัยจากโลกออนไลน์

นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า เด็กและเยาวชน* เป็นช่วงวัยที่มีความสามารถอย่างเหลือล้นในการใช้สื่อไอทีได้อย่างคล่องแคล่วมากกว่ารุ่นพ่อแม่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะมีความรู้และทักษะที่จะใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยสำหรับตัวพวกเอง 

นั่นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดีแทค ภายใต้ความร่วมมือกับเทเลนอร์ กรุ๊ป และ Parent Zone ผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวจากประเทศอังกฤษ พัฒนา SafeInternetForKid.com แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ที่คุณครูและพ่อแม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสอนเด็ก ๆ ให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกัน ก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อปกป้องกันตนเองจากความเสี่ยงในโลกออนไลน์

“ในโอกาสนี้ ดีแทคยังได้รับความร่วมมือในการแนะนำแหล่งเรียนรู้ออนไลน์และการจัดทำค่ายเยาวชนร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เพื่อสนับสนุนให้เด็กมีทักษะความเข้าใจในการใช้สื่อและเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital literacy) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายภาครัฐที่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล” นางอเล็กซานดรากล่าว

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มีภารกิจสำคัญที่ต้องเตรียมคนไทยให้พร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชน มีความรู้และทักษะในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ไปพร้อมกับการมีภูมิคุ้มกันต่อภัยออนไลน์ต่าง ๆ ที่มักมีความซับซ้อน เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถส่งผลกระทบในวงกว้างได้  สำนักงานฯ จึงให้การสนับสนุนการทำงานดังกล่าวผ่านกลไก Digital Manpower Fund เพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในการต่อสู้กับภัยออนไลน์ที่นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย

SafeInternetForkid.com สร้างเยาวชนให้มีภูมิคุ้มกันบนโลกดิจิทัล (Digital Resilience)

เด็กและเยาวชนทุกคนมีสิทธิ์ในการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงแหล่งความรู้เพื่อโอกาสในการพัฒนาตนเองอย่างเหมาะสมและมีสิทธิ์ในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นบนพื้นที่ออนไลน์อย่างมีความรับผิดชอบ จากผลสำรวจสถานการณ์เด็กไทยกับภัยออนไลน์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2560 ของศูนย์ประสานงานขับเคลื่อนการส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์ (COPAT)** กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กอายุ 9-18 ปีจากทั่วประเทศไทย พบว่า เด็ก ๆ เผชิญกับความเสี่ยงทางออนไลน์ ทั้งเคยพบเห็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ 68.07% เคยถูกกลั่นแกล้งรังแกทางออนไลน์ 46.11% และเคยนัดพบกับเพื่อนออนไลน์ 15.97%

SafeInternetForkid.com ออกแบบมาเพื่อสร้างทักษะให้เยาวชนสามารถปรับตัวและมีภูมิคุ้มกันบนโลกออนไลน์ (Digital Resilience) มีลักษณะสำคัญ ได้แก่ สามารถแยกแยะความเสี่ยงบนออนไลน์ได้ รู้วิธีการขอความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม สามารถใช้ประโยชน์และสร้างโอกาสจากการใช้อินเทอร์เน็ตได้ และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม หากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นเหยื่อในโลกออนไลน์

เนื้อหาของ SafeInternetForkid.com เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชนระหว่างช่วงวัย 7 – 16 ปี แหล่งเรียนรู้ออนไลน์นี้ ประกอบด้วยแบบฝึกหัดที่ครูสามารถดาวน์โหลดไปปรับใช้ในกิจกรรมการเรียนในห้องเรียนได้ รวมถึงเกมส์ออนไลน์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้อินเทอร์เน็ต 

เนื้อหาในเกมส์จะเป็นการติดตามชีวิตของ “น้องฟ้า” ที่จะพาผู้เล่นไปรู้จักสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการถูกล่อลวง โดนกลั่นแกล้งและอาจหลงเชื่อข่าวปลอม โดยคำถามจะมีความยากง่ายตามอายุของผู้เล่น

ปัจจุบัน ดีแทคและบริษัท อินสครู จำกัด สตาร์ทอัพที่มุ่งพัฒนาศักยภาพคุณครู ได้ร่วมมือกันเผยแพร่แหล่งเรียนรู้ SafeInternetForKid.com ผ่านการอบรมครูและนักเรียนจาก 400 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งดีแทค คาดว่าจะมีเด็กนักเรียนกว่า 50,000 คน ที่ได้รับประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ดังกล่าวในปีนี้

นางมานิชา โดกรา รองผู้อำนวยการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเอเชีย เทเลนอร์ กรุ๊ป ได้กล่าวว่า เทเลนอร์ กรุ๊ป เชื่อว่า การรับรู้ข่าวสารบนโลกออนไลน์อย่างเท่าเทียมกันจะทำให้ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม รวมถึงการได้รับความร่วมมือกับเครือข่ายต่าง ๆ จะเป็นการสนับสนุนที่สำคัญทางด้านการศึกษา ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเข้าถึงเด็กและเยาวชนมากกว่า 4 ล้านคน เพื่อการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยในปี 2020

Young Safe Internet Leader Camp แพลตฟอร์มสร้างศักยภาพเด็กและเยาวชนเพื่อสร้างกลไกรับมือความเสี่ยงออนไลน์

แพลตฟอร์มนี้ ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับเด็กและเยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ช่วงวัย 12-15 ปี) เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองสู่การเป็นแกนนำเยาวชนที่มีความรู้และทักษะที่จำเป็น สามารถนำไปต่อยอดในการจัดการกับความเสี่ยงในการใช้อินเทอร์เน็ตประจำวัน และยังให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นได้  เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมในแพลตฟอร์มนี้จะมีโอกาสทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาเพื่อสร้างแผนกิจกรรมและโครงการการจัดการปัญหาอันเนื่องมาจากความเสี่ยงบนโลกออนไลน์ที่ส่งผลกระทบในโรงเรียนและชุมชนของตนเอง 

นอกจากนี้ Young Safe Internet Leader Camp ยังมีจุดประสงค์เพื่อสร้างทัศนคติและความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความสำคัญของทักษะที่เกี่ยวกับการนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ (Data-Driven mindset) ซึ่งเป็นทักษะดิจิทัลจำเป็นที่คนทำงานในอนาคตต้องมี โดยเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลเพื่อการแสดงผลด้วยภาพ (Data Visualization) และการใช้ข้อมูลเล่าเรื่อง (Data storytelling) ค่ายจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2562 ที่ dtac house อาคารจัตุรัสจามจุรี  ทั้งนี้ Young Safe Internet Leader Camp เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง ดีแทค สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์และมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และเพื่อเสริมทักษะการเรียนรู้ในการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย สามารถเข้าไปที่ SafeInternetForKid.com

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

ขาเที่ยว Gen Z กับโซเชียลมีเดีย ความสัมพันธ์ซับซ้อนสุดๆ

สำหรับกลุ่ม Gen Z ชาวไทยแล้ว อินสตาแกรมเป็นแหล่งยอดฮิตอันดับต้น ๆ สำหรับหาแรงบันดาลใจ เพื่อตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี 51% ของชาวไทยในกลุ่ม Gen Z เชื่อถือคำแนะนำของคนที่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว

You May Like