Sustainability Expo (SX2023) ครั้งที่ 4 เตรียมเปิดตัว ภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืนเพื่อโลก” ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน – 8 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“ต้องใจ ธนะชานันท์” ผู้อำนวยการคณะจัดงาน Sustainability Expo (SX2023) กล่าวว่างาน Sustainability Expo จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 และแตกต่างจากมหกรรมด้านความยั่งยืนอื่นๆ ด้วยยึดแนวคิดหลักการจัดงาน “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหัวใจของการจัดงาน และพูดคุยกับผู้บริโภคทุกกลุ่ม จนถึงเด็กและเยาวชนให้รู้ว่า ทุกคนลงมือทำได้เพื่อความยั่งยืนอีกทั้งครอบคลุมความยั่งยืนทุกมิติ ไม่ใช่ด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่มีมิติการสร้างสังคมที่เท่าเทียม ทั้งด้านผู้พิการ ผู้สูงอายุ เพศสภาพ มิติชุมชน มิตินวัตกรรมเพื่อสุขภาพ และธุรกิจที่ยั่งยืน ผ่านกิจกรรมตลอด 10 วัน
งาน Sustainability Expo 2023 หรือ (SX2023) เป็นการตอกย้ำต้นแบบของความยั่งยืน ที่น้อมนำพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และ ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy – SEP) ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการจัดงานด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และเป็นการรวมพลังเครือข่ายทุกภาคส่วนที่มาร่วมกันสร้างทศวรรษแห่งการ “ลงมือทำ”(Decade of Action)
งาน SX 2023 เป็นงานที่ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความสมดุลในด้านเศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) รวมถึงไลฟสไตล์ในชีวิตประจำวันของทุกคน โดยการผสานความร่วมมือของกว่า 100 องค์กร 250 วิทยากร และ 500 เครือข่ายธุรกิจยั่งยืน ระดับภูมิภาค และระดับโลก นำโดย 5 องค์กรธุรกิจต้นแบบด้านความยั่งยืนระดับโลก ได้แก่บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC, เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ปีนี้พันธมิตรที่เป็น Co-founder อย่าง เอสซีจี จะเข้ามาจัดงาน ESG Symposium และหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงาน TCAC (Thailand Climate Action Conference) ซึ่งนับเป็นงานใหญ่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเรื่องแผน Net Zero ของประเทศในงาน SX 2023 อีกด้วย และยังร่วมด้วยเครือข่าย TSCN (Thailand Supply Chain Network หรือ TSCN) และหน่วยงานจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม อีกมากมายที่จะมาร่วมสร้างต้นแบบโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนที่เรียกว่า B2C2B (Business-to-Consumer-to-Business) หรือการยึดผู้บริโภคเป็นแกนกลางในการเชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจ ที่ทุกภาคส่วนมารวมพลังกันขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก (SDGs) ภายในปี 2030
ภายในงานจะมีกิจกรรมไฮไลท์ และสุดยอดนวัตกรรม รวมถึงต้นแบบ โมโดลด้านความยั่งยืนทุกรูปแบบจากองค์กรชั้นนำ ที่จัดเต็มตอบความเป็นไลฟ์สไตล์ในตัวคุณ ที่จะช่วยกันปรับพฤติกรรม เปลี่ยนทัศนคติใหม่ๆ ไปตามเทรนด์โลก ตั้งแต่การนอน การกิน การออกกำลังกาย มุมมองการใช้ชีวิต การปฏิบัติตนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน การลงมือทำเพื่อคนอื่นเพื่อโลก
รวมทั้งยังมี Repartment Store ที่ร่วมกับ “ปันกัน” นำของที่ไม่ใช้แล้ว แต่ยังใช้ได้มาร่วมแบ่งปัน มีส่วนของสินค้าสำหรับรักช้อปปิ้งรักษ์โลก และยังมีโซน Food Fest ที่ชวนให้ผู้ร่วมงานทานแล้วแยกทิ้งอย่างถูกวิธี
ภายในงานยังมีนวัตกรรมแห่งมัลติมีเดีย ให้ได้สัมผัสโลกเสมือนจริงคู่ขนานแบบ 360 องศา Immersive Experience Pavilion ให้เห็นถึงความเลวร้ายที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อโลกถูกทำร้าย และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนที่เราค้นหา จากสารคดีธรรมชาติจากNational Geographic บนจอ 3 มิติขนาดยักษ์
ร่วมเกาะติดเทรนด์ยั่งยืนของโลกกับเวทีเสวนาที่จัดเต็มมุมมองคนทำจริง หาคำตอบสู่สังคมและโลกที่ยั่งยืนของวิทยากรชื่อดังจากทุกวงแวดวง ที่มาชวนคุณเปลี่ยนโลกไปด้วยกันกับศาสตร์แห่งนวัตกรรมล้ำสมัย องค์ความรู้ใหม่เพื่อปรับเปลี่ยนตัวเรา ปรับกาย..ฮีลใจทั้งด้านสุขภาพ การกิน การอยู่ การใช้ชีวิตในสังคมสูงวัย การเรียนรู้ไม่สิ้นสุด และความพยายามเพื่อเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ชวนเด็กๆ มาร่วมสนุกและเพลิดเพลินเล่นแบบนี้ดีต่อโลก เรียนรู้ธรรมชาติและสร้างเสริมจินตนาการและจิตสำนึกที่ดี เพื่อโลกที่ SX Kids Zone และอิ่มอร่อยที่เทศกาลอาหารแบบรักษ์โลกจากเหล่าเซเลบริตี้ เชฟชื่อดัง ช็อปสินค้าอีโค่แบรนด์ดัง และร้านค้าชุมชนมากมาย ที่ SX Marketplace เพื่อสังคม และคุณภาพชีวิตที่ดี และอีกหลากหลายกิจกรรมที่เรียกได้ว่าขนกันมาแบบจัดเต็ม ให้คุณได้ตื่นตาและ ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้กันแบบไม่มีหลุดเทรนด์ อาทิ
- โซน SEP Inspiration
ตามหาความหมายที่แท้จริงของ SEP(SX Prologue) ถ่ายทอดผ่านแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่เป็นหัวใจในการจัดงาน ร่วมสัมผัสมิติคู่ขนาดระหว่างโลกไร้สมดุลกับโลกแห่งสมดุลที่ดี ที่มาในรูปแบบ Immersive multi media พบกับผลงานCollaboration จาก ศิลปิน BAB ผู้ใกล้ชิดและเข้าใจธรรมชาติ ผนวกกลุ่มสร้างแสงและเสียงร่วมสมัย Duck Unit ร่วมกับภาพมหัศจรรย์บนพื้นโลก จาก NAT GEO นิทรรศการที่จะนำทางไปค้นหาคำตอบที่แท้จริงของการสร้างสมดุลที่ดี เพื่อโลก ที่ดีขึ้น และยังเป็นสร้างแรงบันดาลใจให้บุคคลและองค์กรต่าง ๆ ได้ร่วมกันหาทางออกที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- โซน Better Me
ทุกสิ่งจะดีขึ้นได้…เริ่มที่ตัวเรา ปรับมุมมองความคิดในการใช้ชีวิตต่างวัยให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข พบกับโซน Good Health & Well Being indoor Park ภายใต้กรอบคิดว่า “เราทุกคนสามารถกอบกู้โลกได้” พร้อมอัพเดทเทรนด์สุขภาพ และสุดยอดนวัตกรรมทางการแพทย์ในรูปแบบของ Application และ AI ที่ดีต่อเรา ดีต่อโลกในหลากหลายมิติที่สายรักสุขภาพไม่ควรพลาด ร่วมสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม สู่แนวทางการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้จริง ใน 3 มิติ ได้แก่ สุขภาพกายเราดี สุขภาพโลกของเราดี (Healthy Life Healthy Earth)
พบกับนวัตกรรมการผลิตอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนและรักษาโลก, สังคมสูงวัย อยู่อย่างไรให้เป็นสุข (Aging Society) ที่เชิญชวนร่วมการวางแผนก่อนเกษียณ รวมทั้งการใช้ชีวิตอย่างมีสุขร่วมกันในสังคมต่างวัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) ที่จะมาให้แนวคิดที่น่าสนใจที่ส่งเสริมการพัฒนาเยาวชน คนรุ่นใหม่ และใช้กีฬาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างคนที่มีคุณภาพ มีสุขภาพและทัศนคติที่ดี สู่การสร้างอาชีพ ที่เป็นจริงได้ ตลอดจนการส่งเสริมแนวคิดด้านธุรกิจเพื่อสังคมสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ที่มีต้นแบบเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้นำไปปรับใช้ในแบบตัวคุณ
- โซน Better Living
นำเสนอผลงานและโครงการขององค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนขนาดใหญ่ที่ดำเนินงานเพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อม และสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ยกระดับคุณภาพชีวิตที่เกิดจากการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปใช้ตลอดกระบวนการผลิต ห่วงโซ่มูลค่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์หรือ Net Zero ผ่านการนำเสนอ ในแง่มุมที่น่าสนใจและใกล้ตัว ในรูปแบบ Sustainable Living 24/7 Lifestyle ภายใต้ 4 แกนหลัก ได้แก่ การดูแลน้ำ (Water Stewardship), การลดคาร์บอน (Decarbonization),ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) และ การจัดการของเสีย (Waste Management)
- โซน Better Community
บอกเล่าเรื่องราวของสังคมที่เป็นหนึ่งเดียวและมีความเท่าเทียม เชื่อมโยงคน เชื่อมโยงเครือข่ายที่ทำหน้าที่สร้าง “ความปกติสุข” ในสังคม ที่มีความหลากหลาย ผ่านมุมมองด้านต่างๆ นอกจากนี้ได้มีการนำเสนอแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของแต่ละคน โดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อสังคม ที่จะต้องมีการรวมตัวกันการสืบสาน รักษา ต่อยอด มรดกทางวัฒนธรรม ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงต้นแบบของการพัฒนาชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ทั้งชุมชน เมือง และภูมิภาค
- โซน Better World
ตื่นตาตื่นใจไปกับ SX Landmark และ Arts Exhibition ที่รวบรวมงานศิลป์สะท้อนมุมมองความยั่งยืนในหลากหลายรูปแบบ อาทิ Nat Geo สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย และผลงานนานาชาติ 10 ประเทศ ASEAN ที่ยังไม่เคยจัดแสดงที่ใด จากโครงการ ASEAN SX PHOTO CONTEST และโครงการ Trash to Treasure เปลี่ยนขยะเป็นงานศิลป์ทรงคุณค่า
- SX Food Festival
เทศกาลอาหารเพื่อโลกจากเชฟชื่อดัง พบกับธีม Thai Street Food Museum ที่จำลองจุด landmark ชื่อดังร่วมสมัยในกรุงเทพฯ เมืองเก่าภูเก็ต และหัวเมืองสำคัญของไทยมาไว้ในหนึ่งเดียว พร้อมเสิร์ฟอาหารเลิศรสที่ดีต่อคุณ ดีต่อโลก กับแนวZero-Waste Cooking เรียนรู้การจัดการขยะอาหารเพื่อความยั่งยืนแบบเต็มรูปแบบ SX Marketplace พาช็อปสินค้างานคราฟโดนใจเพื่อชุมชนและสังคม
- SX Kids Zone
ชวนน้องๆ มาสนุกกับการเรียนรู้และความน่าฉงนของโลกแห่งแมลงตัวจิ๋วกับบทบาทที่สำคัญต่อโลกที่ยั่งยืนใบนี้ พร้อมกิจกรรมเสริมทักษะความคิดอีกมากมาย
มาร่วมกันเปลี่ยนโลกเพื่อ สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า Good Balance, Better World กับสุดยอดไฮไลท์โซนต่างๆ รวมถึงทุกเรื่องบน TALK STAGE จากตัวจริงเสียงจริงที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ทำงานเพื่อ สร้างสมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า
“ต้องใจ” กล่าวว่า จากการจัดงาน SX ต่อเนื่องมาแล้ว 3 ครั้ง มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสดงให้เห็นถึงความตระหนักรู้ของประชาชนที่มีเพื่มขึ้น โดยปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมงานกว่า 2.7 แสนคน และปีนี้คาดว่าจะมีมากกว่า 3 แสนคน ทำให้สามารถกระจายความรู้สู่ประชาชนได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ