กลุ่มเอ็นริช ปั้น ‘ARCH’ รุกตลาดบ้านซุปเปอร์ ลักซ์ชัวรี่ เอ็กคลูซีฟแค่ 12 หลัง

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:6 Minute, 3 Second

กลุ่มบริษัทเอ็นริช ส่ง “ARCH” สุขุมวิท 39 บ้านระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ทำเลใจกลางสุขุมวิท ขายความเอ็กคลูซีฟระดับพรีเมี่ยม ด้วยบ้านหรูเพียง 12 หลัง ราคา 65-133 ล้าน

“สุพิชา ณัฐสุวรรณพล” ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยว่า จากทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่ขึ้นไป ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และพร้อมจ่าย เอ็นริชเห็นโอกาสทางการตลาด จึงร่วมทุนกับ บริษัท ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด (Saibu Gas Holdings Co.,Ltd.) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมานานกว่า 90 ปี ขยายการลงทุนสู่ โครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 (ARCH Sukhumvit 39) บ้านระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลซีบีดี  

“สุพิชา ณัฐสุวรรณพล” ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช

โครงการ ARCH Sukhumvit 39 ตั้งอยู่บนทำเลถนนสุขุมวิท ด้วยดีไซน์ Modern Classic เน้นรูปทรงโค้งมน (ARCH) ทำให้โครงการมีความโดดเด่นและแตกต่าง ท่ามกลางพื้นที่มีความเป็นส่วนตัว เสริมด้วยตัวบ้านที่มีความเรียบหรู ทันสมัย และการเติมเต็มด้วยพื้นที่สีเขียว ทำให้ทุกห้องสามารถได้รับแสงธรรมชาติ และมีมุมมองภายในห้องที่ดี ตอบโจทย์การใช้งาน และไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน บนที่ดิน 2 ไร่ จำนวนจำกัด เพียงแค่ 12 หลัง

พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมีขนาดใหญ่ 535-829 ตร.ม. แบ่งเป็น 4-5 ห้องนอน พร้อมที่จอดรถ 4-6 คัน และลิฟต์ส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท การสัญจรอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางไปทองหล่อ และสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เพียง 1.5 กม. และยังเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้ทั้งถนนสุขุมวิท เพชรบุรี และพระราม 9 แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก “The EM District” รถไฟฟ้า โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำ โดยโครงการมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2566

“อนวัช ฉัตรศิริกุล” ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ กลุ่มบริษัทเอ็นริช กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้โครงการของกลุ่มบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นเพราะมีข้อมูลอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ จากการสำรวจตลาด พบว่า กลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่จะมีความต้องการใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.ทำเล ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 2.ดีไซน์ พื้นที่ใช้สอยต้องมีขนาดที่เหมาะสม และมีความสวยงาม

การออกแบบจากดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับ การดีไซน์นั้นยังต้องแสดงความเป็นตัวตนของลูกค้าได้อย่างชัดเจน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และการก่อสร้างที่มีคุณภาพสูงด้วย และ 3. มีความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย เพราะลูกค้าต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่เมื่อกลับมาที่บ้าน

“โยชินาริ นุมาโนะ” และ “เคสุเกะ โคจิ” ตัวแทนฝ่ายบริหาร บริษัท ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด ร่วมกันกล่าวว่า เหตุผลที่กลุ่มไซบุแก๊ส เลือกที่จะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจมาที่อาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย เพราะมีการพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น มีการเติบโตด้านธุรกิจอสังหาฯ ที่มั่นคง บริษัทเลือกลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพทั่วโลก และจากที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มบริษัท เอ็นริชที่ผ่านมา อาทิ พัฒนาโครงการ เดอะมาร์ค เอ็กซ์ควิซิท ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาทขึ้นไป ประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถปิดโครงการได้ในเวลาอันรวดเร็ว แม้เปิดตัวในช่วงโควิด-19 เป็นผลมาจากการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในบ้านตอบโจทย์กับการใช้งานจริง ควบคู่กับการการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมถึงยังผสานแนวคิดการจัดบ้านแบบ “คอนมาริ” ในสไตล์ มาริเอะ คอนโดะ ร่วมกับตัวแทนที่ปรึกษาระดับมาสเตอร์อีกด้วย


“ในการพัฒนาทุกโครงการ เรายังคงยึดหลักแนวคิด Guiding You to Practical Living คือ ให้ผู้อยู่อาศัย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้จริงในโครงการของเรา สำหรับโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 ก็เช่นกัน เราเน้นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองสุขุมวิท นอกจากความสะดวกสบายเรื่องการเดินทาง ซึ่งเป็นความกังวลของคนในย่านนี้แล้ว ยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อได้เข้าบ้าน ก็ได้พักผ่อนในบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมด้วยดีไซน์อันมีเอกลักษณ์ ทั้งในแง่พื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสม และความสวยงามซึ่งเป็นสิ่งที่คนย่านนี้ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน” นางสาวสุพิชา กล่าว

“อาทิตยา เกษมลาวัณย์” หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสำหรับตลาดบ้านกลุ่มลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปในกรุงเทพฯชั้นในและชั้นนอก พบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการบ้านใหม่ในกลุ่มลักซ์ชัวรีขึ้นไปในช่วงก่อนโควิด-19 (ปี 2560-2562) พบว่ามีการเปิดตัวเฉลี่ย 260 หลังต่อปี ในขณะที่ช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 (ปี 2563-2565) ตลาดบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปกลับเติบโตสวนกระแส โดยมีการเปิดตัวเฉลี่ย 645 หลังต่อปี หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 132%
 
เมื่อพิจารณาในด้านความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ พบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการขยายพื้นที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้น  ส่งผลให้ยอดขายบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปโดยรวมในตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้พุ่งสูงถึง 78% ในขณะที่ยอดขายโดยรวมในปี 2565 อยู่ที่ 68% โดยทำเลที่มียอดขายสูงที่สุด คือ ทำเลใจกลางเมือง มียอดขายสูงถึง 88% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลอื่น ๆ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าซัพพลายตลาดบ้านในทำเลนี้มีน้อยมาก เพราะที่ดินมีจำกัด


อย่างไรก็ตาม ความต้องการบ้านใจกลางเมืองยังเป็นความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยผลกระทบจากโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดความต้องการในตลาดและส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย มาสู่รูปแบบบ้านเพิ่มมากขึ้น

“หากเปรียบเทียบโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลสุขุมวิทตอนกลาง ตั้งแต่ย่านอโศกไปจนถึงทองหล่อ จะพบว่ายูนิตขนาดใหญ่ 3 ห้องนอนขึ้นไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200-350 ตร.ม. ที่จอดรถ 3-4 คัน ซึ่งราคาจะอยู่ที่ระดับ 60-130 ล้านบาท ในขณะที่โครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างแท้จริง  ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าและตอบโจทย์ทั้งในแง่ของฟังก์ชันที่มากขึ้น รวมไปถึงที่จอดรถที่เตรียมไว้ให้อย่างเพียงพอ พร้อมกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ในที่ดิน ทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง”

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
100 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

‘SDGs & ESG’ 2 แนวคิดสร้างโอกาสและความท้าทายธุรกิจสู่ความยั่งยืน

วิถีการดำเนินธุรกิจในโลกยุคใหม่ หากไม่รู้ ไม่เข้าใจเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) หรือแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ก็พอจะประเมินสถานะในอนาคตของธุรกิจได้เลยว่า ไม่น่ารอด เพราะการค้าขายในโลกกำลังทะยานเข้าสู่โหมดของ Sustainable Development เกือบทั้งหมด

You May Like