0
0
ดัชมิลล์ กรุ๊ป เดินหน้าสร้างแบรนด์องค์กรอย่างเข้มข้น หลังจากที่เน้นการสื่อสารผ่าน Product Brand มาโดยตลอด โดยครั้งนี้ได้ดึงพิธีกรชื่อดัง #หนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอย มานั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์องค์กรคนแรก เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสังคมและคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค
- พี่หน่วง-หนุ่มกรรชัย สะท้อนภาพองค์กรเพื่อสังคม
จิตรภณ ไตรรัตน์วรวุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด กล่าวว่า การเลือก “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” หรือ พี่หน่วง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์องค์กรครั้งแรกของดัชมิลล์ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ แต่ยังช่วยสื่อสารคุณค่าขององค์กรที่ต้องการส่งเสริมสังคมให้น่าอยู่ขึ้น ด้วยบุคลิกของหนุ่ม กรรชัย ที่เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และเป็นกระบอกเสียงให้สังคม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของดัชมิลล์ในการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ พร้อมกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค
ดัชมิลล์มีโครงการเพื่อสังคมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ “หน่วยกู้ สู้ค่าครองชีพ” หรือการสนับสนุนโภชนาการที่ดีให้กับเด็กๆ ในโรงเรียน การมอบผลิตภัณฑ์นมให้กับผู้ที่ขาดแคลน และโครงการช่วยเหลือด้านสุขภาพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม การมีหนุ่ม กรรชัยเป็นตัวแทนของแบรนด์ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความตั้งใจขององค์กรในการทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกัน ดัชมิลล์ยังได้ร่วมมือกับ เต็ดตรา แพ้ค พัฒนาบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart Packaging) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการสร้าง Engagement กับผู้บริโภค และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน ด้วยแนวคิด “ใช้ให้คุ้ม – คืนให้ครบ” ที่จะต่อยอดสู่ระบบการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ในอนาคต
- ต่อยอดแคมเปญสะสมแต้ม สู่แนวทาง Circular Economy
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของแคมเปญ Corporate Branding ครั้งนี้คือการเปิดตัว Dutch Mill Point Rewards ซึ่งใช้เทคโนโลยี QR Code บนบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถสะสมคะแนนจากการซื้อผลิตภัณฑ์ และนำแต้มที่ได้ไปใช้สำหรับการลด แลก ลุ้นของรางวัลต่างๆ ตามความต้องการ
นอกจากจะสร้าง Brand Engagement และ Brand Loyalty แล้ว ระบบนี้ยังช่วยให้ดัชมิลล์สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น ขนาดและรสชาติของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม รวมถึงความถี่ในการบริโภค เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างแม่นยำ
แต่ที่มากกว่านั้นคือ ดัชมิลล์มีแผนต่อยอดระบบสะสมแต้มนี้ไปสู่การจูงใจให้ผู้บริโภคส่งคืนบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยพิจารณารูปแบบของการให้แต้มพิเศษสำหรับการนำกล่องนมกลับมาคืนที่จุดรับทิ้ง หรือผ่านระบบจัดเก็บขยะที่มีความร่วมมือกับพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะและส่งเสริม Circular Economy อย่างเป็นรูปธรรม
- จุดเริ่มต้นของแนวคิด “ใช้ให้คุ้ม – คืนให้ครบ”
สุภนัฐ รัตนทิพ ผู้ออำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตร้า แพ้ด(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือกับ เต็ดตรา แพ้ค ไม่เพียงแค่ช่วยให้ดัชมิลล์พัฒนาแพ็กเกจจิ้งที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล แต่ยังช่วยให้แบรนด์สามารถออกแบบระบบการจัดการบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคอย่างยั่งยืน โดยหนึ่งในแนวคิดที่กำลังพัฒนา คือการใช้ QR Code เพื่อติดตามเส้นทางของบรรจุภัณฑ์จากจุดจำหน่ายสู่การรีไซเคิล
นอกจากนี้ การออกแบบ QR Code ให้สแกนได้หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์ ยังช่วยป้องกันการสแกนซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต และมั่นใจได้ว่าผู้ที่เข้าร่วมแคมเปญคือผู้บริโภคที่แท้จริง ซึ่งช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบสะสมแต้ม และสามารถใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมการรีไซเคิลได้ในอนาคต
- ความร่วมมือที่แข็งแกร่งเพื่อความยั่งยืน
ด้วยปริมาณการผลิตที่มากกว่า 10 ล้านกล่องต่อวัน และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่า 30 รายการ ดัชมิลล์จำเป็นต้องพึ่งพาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความแม่นยำในการผลิต เพื่อให้สามารถบริหารจัดการ QR Code บนบรรจุภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การพัฒนานี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่ม Engagement กับลูกค้า แต่ยังเป็นการปูทางไปสู่การสร้างระบบรีไซเคิลที่สามารถนำบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของดัชมิลล์ในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- จากสะสมแต้ม สู่ Circular Economy
แนวทางของ ดัชมิลล์ไม่ได้มองแค่การสร้างแบรนด์องค์กร แต่กำลังวางรากฐานไปสู่ระบบที่ช่วยให้ธุรกิจและผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวทาง “ใช้ให้คุ้ม – คืนให้ครบ” ที่จะช่วยลดขยะและเพิ่มโอกาสในการรีไซเคิล ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะและระบบสะสมแต้ม
แคมเปญ Corporate Branding ในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การสร้างภาพลักษณ์องค์กร แต่เป็นการก้าวไปสู่อนาคตของธุรกิจที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง
