“บาร์บีคิวพลาซ่า” ทำ Non-Green Premium ลดคาร์บอนต้นทุนไม่เพิ่ม

admin
0 0

Sharing is caring!

Read Time:8 Minute, 56 Second

“บาร์บีคิวพลาซ่า” จัดหนัก Non-Green Premium ทำ Behavioral Changes พนักงาน คุมต้นทุนอยู่หมัด พร้อมนำ Data Driven ประเมินต้นทุนล่วงหน้า พร้อมอัดแคมเปญโปรโมชั่นแบบจุกๆ ดันธุรกิจเติบโตสู่เป้า 4,500 ล้าน ภายในปี 2568

การทำธุรกิจเชนร้านอาหาร ต้นทุนกว่า 90% คือวัตถุดิบ “บาร์บีคิวพลาซ่า” ธุรกิจร้านอาหาร “ปิ้งย่าง” ที่ผู้บริหารใช้ Data Driven และ Behavioral Changes เป็นเครื่องมือสำคัญบริหารจัดการต้นทุนแบบอยู่หมัด แม้ปี 2566 จะเป็นปีที่บริษัทเริ่มผันองค์กรสู่คงามยั่งยืนอย่างเต็มตัวมากขึ้น ด้วยการสร้าง Green Restaurant เพื่อมุ่งสู่การสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยังมุ่งมั่นทำรายได้เติบโตต่อเนื่องสู่เป้า 4,500 ล้านบาทภายในปี 2568 

จรูญโรจน์ เทพที ประธานบริหารสายงาน-ซัพพลายเซน บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด

เมื่อพูดถึงต้นทุน กะหล่ำปลีถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งที่บาร์บีคิวพลาซ่า ต้องใช้มากถึงวันละ 5 ตัน หรือราว 2 ล้านกิโลกรัมต่อปี ดังนั้น ปี 2560 จรูญโรจน์ เทพที ประธานบริหารสายงาน-ซัพพลายเซน บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ “บาร์บีคิวพลาซ่า” กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ปรับวิธีการจัดซื้อทำ Cabbage to Table ภายใต้แนวคิด Triple Bottom Line ได้แก่ People, Planet และ Profit มุ่งสู่การเป็นธุรกิจที่ดีกับมนุษย์และโลก ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพและปลอดภัย เช่น กะหล่ำปลีฝอย ที่รับซื้อจากวิสาหกิจชุมชนผักแปลงใหญ่และชุมชนบ้านนาป่าแปก จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่

เกษตรกรปลูกโดยลดใช้ปุ๋ยเคมี และเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการปลูกแบบ GAP คือแนวทางที่ให้เกษตรกรมุ่งเน้นการผลิตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยลดการใช้สารเคมีลงได้ถึง 50% เพื่อให้เกษตรกรลดรายจ่ายในการใช้สารเคมี และเพิ่มคุณภาพให้กับวัตถุดิบ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งมีการประกันราคา และวางแผนปริมาณการใช้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการผลผลิตไม่ปลูกโอเว่อร์ดีมานท์  

บาร์บีคิวพลาซ่าตั้งเป้าเพิ่มศักยภาพโมเดล Green Restaurant ที่เริ่มสาขาแรกเมื่อปี 2566 โดยมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทาง Zero Waste to Landfill หรือการจัดการขยะให้กลายเป็นศูนย์ ตามหลักการ 4Rs (Reduce, Reuse, Recycle, Re-think) ซึ่งปัจจุบันได้ขยายไปถึง 11 สาขา

จรูญโรจน์ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มเข้าบริหารซัพพลายเชนของ “บาร์บีคิวพลาซ่า” เมื่อ 10 ปีที่แล้ว พร้อมกับนำเรื่อง Data Driven เข้าขับเคลื่อนองค์กร วิเคราะห์และประเมินต้นทุนล่วงหน้า บริหารจัดการการจัดซื้อกับท็อป 80% ของซัพพลายเออร์ที่มีในมือ พิจารณาดูว่ามีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ ต้องเติมรายใหม่หรือเปล่า เพื่อสร้างให้เกิดการแข่งขัน และบริหารการแข่งขันอย่างเป็นธรรม การบริหารรูปแบบดังกล่าว ทำให้ต้นทุนแทบไม่ขยับขึ้นเลย จะมีบางปีที่ขึ้นบ้างเนื่องสภาวะโดยรวม เช่น เกิดภาวะแล้ง ช็อตซัพพลาย หรืออื่นๆ

ทุกปีผู้บริหารระดับ Management จะนำต้นทุนมาประเมิน (forecasting) ต้นทุนและการทำตลาดของปีหน้า ถ้าต้นทุนเพิ่มขึ้นจะตั้งราคาขายเท่าไร แล้วต้นทุนเหล่านี้ที่กำลังจะเข้ามา บริษัทฯ สามารถรับได้ไหมกับราคาขายที่เรากำลังจะวาง โดยพยายามไม่ผลักราคาขายไปหาผู้บริโภคเลย การทำเช่นนี้ทำให้บาร์บีคิว พลาซ่าไม่ได้ขึ้นราคามาราว 2 ปี

ผู้บริหารคนนี้ กล่าวว่า ต้นทุนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มิเช่นนั้น จะทำให้แข่งขันกับร้านอื่นๆ ไม่ได้ เพราะบางร้านก็ยังไม่ได้ทำเรื่องความยั่งยืน สิ่งที่ต้องทำ คือ พยายามบาลานซ์พอร์ตให้ได้ก่อน เพื่อให้ต้นทุนไม่เพิ่มขึ้น ซัพพลายเออร์ที่เขาขายของถูก แต่เขายังไม่ค่อยรักษ์โลก ก็ต้องคงสถานะไว้ แต่ไม่ใช่ First Priority สัดส่วนการซื้อจากเขาอาจจะลดลงนิดหนึ่ง เพื่อไปเติมให้กับอีกขาที่ทำเรื่องรักษ์โลก

ส่วนการเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรยั่งยืน (Sustainability) บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายและกำหนดแนวทางตั้งแต่เริ่มต้นจริงเมื่อปี 2566 ว่า บาร์บีคิวพลาซ่าจะเป็น Non- Green Premium เท่านั้นในช่วงตั้งต้น

Non- Green Premium ในความหมายของผู้บริหารคนนี้คือ การลงเงินไม่มาก ผ่านการใช้แนวคิด Small but Meaningful โดยหัวใจสำคัญคือ “การทำ Behavior Changes” เริ่มด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนทำงาน ให้พนักงานแต่ละฝ่ายคิดและนำเสนอว่า จะลดปริมาณการ้กระดาษอย่างไร ลดการใช้พลังงานอย่างไร และทำอย่างไรจึงคุมต้นทุนได้ และเมื่อทำได้สูงสุดแล้ว ก็นำระบบไคเซ็น (Kaizen) เข้ามาเสริม ปรับวิธีการให้ดีขึ้นอีก เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อย ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการ “หนูทำได้” ให้พนักงานคิดปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วยตัวเอง เช่น ฝ่ายบัญชี ไปคิดเรื่องทำอย่างไรให้ลดกระดาษลง ให้เขาคิดเอง แล้วนำมาประเมินว่าทำได้หรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ แนวคิดแบบนี้คือ “เขาเสนอ เขาทำ เขาจะอยากใช้”  

ส่วนที่บริษัทลงทุนสำหรับการเดินหน้าสู่องค์กรยั่งยืน ที่ลดการใช้พลังงานคือ การติดตั้งโซล่าเซลล์ที่โรงงานและออฟฟิศ ซึ่งในส่วนของโรงงาน บริษัทของการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ทำให้สามารถคืนทุนได้ภายในอีกไม่เกิน 3 ปีนับจากนี้ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายมุ่งสู่องค์กรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30% ภายในปี 2573 และจะเป็นองค์กรที่บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน ปี 2593 (Net Zero Emissions by 2050) บันได้ขยายไปถึง 11 สาขา เพื่อมอบประสบการณ์ Green Experience ให้กับลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำอย่างแท้จริง

สำหรับความคืบหน้าภายใต้แนวคิด Triple Bottom Line จรูญโรจน์ กลา่วว่า People คืออันดับหนึ่งของการบริหารธุรกิจ ด้วยแนวคิดองค์กรแห่งความสุขผ่านกลยุทธ์ “เก่ง ดี สุข” เพื่อสร้างสรรค์วงจรแห่งความสุขที่ยั่งยืน ผ่านการพัฒนาศักยภาพ ความสามารถ ทักษะของบุคลากรในองค์กรให้เป็นคนมีคุณภาพของสังคม รวมทั้งการสร้างความเท่าเทียมในเรื่องการเข้าถึงการศึกษาที่มุ่งเน้น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการศึกษาเปิดศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่น สำหรับนักเรียนระดับ ปวช. และด้านการพัฒนาหลักสูตรได้เปิดศูนย์อบรมฟู้ดแพชชั่น นำเสนอหลักสูตรสุขาภิบาลอาหารและการจัดการร้านอาหาร โดยใช้ประสบการณ์จากบาร์บีคิวพลาซ่า เพื่อเสริมสร้างศักยภาพบุคลากร และแบ่งปันความรู้กับบริษัทและบุคคลที่ต้องการพัฒนาตนเองในธุรกิจร้านอาหาร

Planet จากการมุ่งเน้นลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ด้วยแนวคิดจากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร (From Farm to Table) เป็นการสร้างคุณค่าที่เชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร ร้านอาหาร และผู้บริโภค ในการมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความยั่งยืนในทุกขั้นตอน รวมถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Efficiency) อย่างการติดตั้งโซล่าเซลล์ที่สำนักงานและโรงงาน ซึ่งสามารถลดพลังงานไฟฟ้าในกระบวนการได้ถึง 30% ลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 400 tCO2e ต่อปี

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการจัดการขยะด้วยแนวทาง Zero Waste to Landfill เพื่อลดปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบ โดยนำเศษเนื้อตัดแต่ง (Food Loss) มาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่มคุณค่า ซึ่งกระบวนการนี้ลดการนำเศษเนื้อตัดแต่งไปทิ้งได้ถึง 1.8 ตัน หรือคิดเป็น 918 kgCO2e ส่วนงานด้านการบริการเรายังมีการออกแบบในการเสิร์ฟกะหล่ำให้กับลูกค้า แบบ 125 / 80 / 80 กรัม ทำให้ลดปริมาณกะหล่ำเหลือทิ้งได้ถึง 10% คิดเป็น 200,000 kg. หรือเท่ากับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 82 tCO2e  ส่วนระบบแยกขยะจากโต๊ะอาหารลูกค้าด้วยม้าเหล็กเราได้แยกประเภท Food Waste และ Recycle Waste พร้อมชั่งน้ำหนัก จดบันทึก ที่ได้ทำงานร่วมกับ Landlord ในการจัดการขยะปลายทางไม่ฝังกลบซึ่งมีปริมาณขยะอาหารอยู่ที่ 30 กิโลกรัมต่อวันต่อสาขา แบ่งเป็นจากร้าน 30% และลูกค้า 70% รวมเป็น 930 tCO2e ต่อปี ขณะที่ขยะรีไซเคิลอยู่ที่ 3 กิโลกรัมต่อวันต่อสาขา รวมเป็น 533 tCO2e ต่อปี 

ส่วน Profit มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ด้วยการนำเสนอตัวเลือกอาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพผ่านห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้าผ่านนวัตกรรม เช่น ระบบใหม่ “GON ORDER-TO-PAY” สั่ง-จ่าย-จบ ทำเองได้ในมือถือ ที่สร้างสรรค์ ลดการใช้กระดาษ

ปีนี้บริษัทฯ ยัเดินหน้าทรานฟอร์มองค์กรสู่การขับเคลื่อนธุรกิจตามกรอบ ESG ที่คำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคมและชุมชน (Social) รวมถึงธรรมาภิบาลที่ดี (Governance) เน้นการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนเป็นหัวใจหลัก โดยมีเป้าหมายในปี 2573 แนวทางสู่ความยั่งยืนขององค์กรใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อมที่มีเป้าหมายในการจัดการก๊าซเรือนกระจก (GHG Management) ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 1 และ 2 ให้ลดลง 30% และขยะฝังกลบในกระบวนการ ลดลง 10% รวมถึงการพัฒนาโมเดล Green Restaurant ที่มุ่งสร้างธุรกิจอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืนและลดการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าได้รับตราสัญลักษณ์ G-Green ระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2566 ในประเภทการบริการร้านอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Restaurant) สาขาที่ได้รับรางวัลนี้คือ เซ็นทรัล วิลเลจ ทั้งนี้ในปี 2567 ได้มีการขยายโมเดล Green Restarant ไปอีก 10 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล รามอินทรา, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล พระราม 3, เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล พระราม 9 และ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์

ปัจจุบัน บาร์บีคิวพลาซ่า มี Green Restarant แล้วว่า 11 สาขา และมีแผนที่จะขยายอีก 11 สาขาในปี 2568 โดยตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 150 สาขา

ส่วนด้านสังคม คือสร้างคนที่มีความสามารถ เป็นคนดี และมีความสุขมากกว่า 30,000 คน เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับทุกคน ในขณะที่ด้านธรรมาภิบาล มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มผ่านนวัตกรรมและปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเป็นธรรม ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามกรอบ ESG บาร์บีคิวพลาซ่าเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ จะสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ในระยะยาว

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

Average Rating

5 Star
0%
4 Star
0%
3 Star
0%
2 Star
0%
1 Star
0%

Leave a Reply

Next Post

อว.สัมมนาใหญ่ กระตุ้นการศึกษาไทย พัฒนาอย่างยั่งยืน

อว.เปิดเวทีสัมมนา “งานวิชาการด้านพัฒนานักศึกษา ปี 2567″ มอบนโยบายการศึกษา บูรณาการ SDGs เข้าสู่หลักสูตรและการวิจัย “เซ็นทรัล” แชร์ไอเดีย-ประสบการณ์ พัฒนาการศึกษาไทย แนะต้องเร่งเพิ่มทักษะทุนชีวิต สอนให้ “คิดอย่างยั่งยืน ถูกจุด และต้องร่วมคิดไปด้วยกัน” พร้อมนำเสนอแนวทางวิธีคิดและการพัฒนาด้านการศึกษา เซ็นทรัล ทำ

You May Like