‘เบทาโกร’ ขยายฐานความมั่นคงด้านอาหารยั่งยืนภูมิภาคอาเซียน ทุ่ม 650 ล้าน สร้างโรงงานอาหารสัตว์แห่งแรก สปป.ลาว กำลังผลิต 108,000 ตันต่อปี เน้นคุณภาพการผลิตที่ปลอดภัยและยั่งยืน ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ พร้อมสร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่น คาดดันรายได้ต่างประเทศปี 67 โตกว่า 22%
วรวุฒิ วณิชกุลบดี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า เบทาโกรต่อยอดความสำเร็จธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร เพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคอาเซียน สร้างโรงงานอาหารสัตว์แห่งแรก ใน สปป.ลาว ด้วยงบ 650 ล้านบาท เพิ่มพัฒนาการผลิตอาหารคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำอย่างยั่งยืน โดยมีกำลังการผลิต 108,000 ตันต่อปี
นอกจากนี้ ยังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูปสู่ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และเบทาโกรช็อป (BETAGRO Shop) พร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์เบทาโกรสู่ผู้บริโภค ขานรับการท่องเที่ยวคึกคัก ดันรายได้ธุรกิจต่างประเทศเบทาโกรปี 2567 เติบโตกว่า 22%
“เรามีการลงทุนในเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการบริหารจัดการ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ตลอดจนการพัฒนาทักษะ ความชำนาญบุคลากร เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น พร้อมผนึกกำลังกับพันธมิตรผ่านเครือข่ายทางธุรกิจทุกภาคส่วน สร้างการเติบโต และสร้างความมั่นคงด้านอาหารที่ยั่งยืนให้กับภูมิภาคอาเซียน”
เบทาโกรกำหนดยุทธศาสตร์กลุ่มธุรกิจต่างประเทศปี 2567 มุ่งขยายธุรกิจในประเทศอาเซียน สร้างรากฐานด้านอุตสาหกรรมอาหารที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมในกัมพูชา และ สปป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศที่สร้างรายได้หลักแก่กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ โดย สปป.ลาว ปัจจุบันมีฟาร์มสุกร ฟาร์มสัตว์ปีก จำหน่ายสุกรขุน ไก่เนื้อ และไก่ไข่ จำนวน 135 แห่ง และร้านเบทาโกร ช็อป 4 แห่ง
สำหรับโรงงานผลิตอาหารสัตว์เบทาโกรแห่งใหม่ใน สปป.ลาว ใช้เทคโนโลยีระบบ Laboratory Information Management System (LIMS) ที่ช่วยตรวจวิเคราะห์วัตถุดิบและอาหารสัตว์ เพื่อให้การผลิตอาหารสัตว์มีคุณภาพและปลอดภัย ซึ่งมีกำลังการผลิต 108,000 ตันต่อปี รองรับดีมานด์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน ลดการนำเข้าอาหารสัตว์จากไทย ขณะเดียวกันมุ่งสร้างแบรนด์เบทาโกร ด้วยการจำหน่ายเนื้อหมู เนื้อไก่ และอาหารแปรรูป รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายในรูปแบบคีออส ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ อาทิ บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต และขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการด้านอาหาร (Food Service)
ส่วนกัมพูชา ปัจจุบันมีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ในกรุงพนมเปญ 1 แห่ง มีฟาร์มสุกร ฟาร์มสัตว์ปีก รวม 425 แห่ง และมีร้านเบทาโกร ช็อป 6 แห่ง บริษัทฯ ขับเคลื่อนโดยใช้กลยุทธ์ “Agro Total Solution” มีการปรับโครงสร้างทีมขายให้ตอบโจทย์การนำเสนออาหารสัตว์ เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ และธุรกิจอุปกรณ์ฟาร์มครบวงจร ขยายตัวสู่ธุรกิจกลางน้ำ โดยนำเสนอบริการโรงชำแหละไก่และหมูครบวงจร ปรับพอร์ตสินค้า เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูปภายใต้แบรนด์เบทาโกร ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ รวมถึงขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการด้านอาหาร ประกอบด้วย ร้านอาหาร โรงแรม รองรับปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว
เบทาโกรยังดำเนินธูรกิจในลักษณะกิจการร่วมค้ากับพันธมิตรท้องถิ่นที่เมียนมา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตลาดอาเซียนที่น่าสนใจ และมีการติดตามสถานการณ์และศึกษาข้อมูลต่อเนื่อง เพื่อดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบและพิจารณาอย่างรอบด้านมากที่สุด พร้อมกันนี้ เบทาโกรยังมองหาโอกาสขยายธุรกิจสู่ประเทศใหม่ ๆ ในอนาคต