ไทยยูเนี่ยนลอยลำ ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ด้านความยั่งยืนอุตสาหกรรมอาหาร DJSI คะแนนรวม 85 คะแนน ขณะที่มิติ สังคม สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล 9 ด้าน คว้าคะแนน 100%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของโลก จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ประจำปี 2567 ด้วยคะแนนรวมสูงสุด 85 คะแนน ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2567 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ของไทยยูเนี่ยน
ปีนี้ ไทยยูเนี่ยน ได้รับคะแนนความยั่งยืนในมิติด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ, สิ่งแวดล้อม, และสังคม ( Environment, Social, และ Governance) โดยรวมที่ 100% ใน 9 หัวข้อ ได้แก่ 1.ความโปร่งใสและการรายงานผลการดำเนินงานอย่างเปิดเผย 2.การระบุและการจัดลำดับประเด็นที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสียทั้งด้านบวกและลบ 3.การบริหารจัดการความเสี่ยงและภาวะวิกฤต 4.การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน 5. การดำเนินกลยุทธ์ด้านภาษี 6. นโยบายและระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม 7. ความหลากหลายทางชีวภาพ 8. สิทธิมนุษยชน และ 9. สุขภาพและโภชนาการ
ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน โดย DJSI เป็นดัชนีที่ประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนหลายพันแห่ง ซึ่งบริษัทฯ ได้รับอันดับ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ในปี 2561, 2562 และ 2565
ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange®2030 ไทยยูเนี่ยนสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนควบคู่ไปกับการดูแลรักษาความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นทั้งในการดำเนินงานของเราและตลอดทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก เพื่อผู้คนและโลกของเราอย่างยั่งยืน
ปีที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนมีความคืบหน้าในการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน ดังนี้
• เปิดตัวโครงการนำร่องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกระบวนการเลี้ยงกุ้ง ร่วมกับ องค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก The Nature Conservancy (TNC) และ บริษัท อาโฮลด์ เดอแลซ สหรัฐอเมริกา (Ahold Delhaize USA) หนึ่งในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกระดับโลก ภายใต้เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุปทานกุ้งอย่างยั่งยืน
• ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ ได้การรับรองมาตรฐานอาหารสัตว์ระดับโลกจากองค์กร Aquaculture Stewardship Council หรือ ASC เป็นแห่งแรกในเอเชีย ในการสร้างมาตรฐานใหม่ในการผลิตอาหารสัตว์เศรษฐกิจอย่างยั่งยืนให้กับภูมิภาคนี้
• ไทยยูเนี่ยนจับมือหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ประกาศความสำเร็จโครงการลดการปล่อยน้ำทิ้งสู่สาธารณะเป็นศูนย์ (Zero Wastewater Discharge) แห่งแรก ณ โรงงานไทยยูเนี่ยน จังหวัดสมุทรสาคร
• ร่วมมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม เซเว่น คลีน ซี (Seven Clean Sea) และองค์กรเพื่อสังคม เซคันด์ ไลฟ์ (Second Life) 2 พันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำนวัตกรรมมาใช้ในการลดปริมาณขยะพลาสติกไหลออกสู่ท้องทะเล
• การดำเนินงานตามนโยบายการจ้างงานสากลที่เป็นธรรม โปร่งใส และเป็นไปตามแนวปฏิบัติในการสรรหาบุคลากร
เป้าหมายของกลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange® 2030 ซึ่งประกอบด้วย 11 พันธกิจ ซึ่งรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 42 เปอร์เซ็นต์ในขอบเขตที่ 1, 2 และ 3 ภายในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 การฟื้นฟูระบบนิเวศ โดยไทยยูเนี่ยนจะสนับสนุนงบประมาณ 250 ล้านบาท (มากกว่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศสำคัญ
อดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยน ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ SeaChange®2030 ที่ไม่เพียงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ไทยยูเนี่ยนยังให้ความสำคัญกับการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายหลายเรื่อง เช่น การลดความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดหาวัตถุดิบอย่างรับผิดชอบ และการสร้างงานที่ปลอดภัย มีคุณค่า และเท่าเทียม เพื่อมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสำหรับคนรุ่นต่อไป
ในแต่ละปี S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) จะทำการประเมินการทำงานด้านความยั่งยืนของบริษัททั่วโลก โดยทุกปีจะมีบริษัทมากกว่า 3,000 แห่ง จาก 62 อุตสาหกรรมเข้าร่วม โดย CSA ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เช่น ไทยยูเนี่ยน สามารถวัดผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมที่หลากหลาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักลงทุนที่เน้นเรื่องความยั่งยืน